ช่วงนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “โควิดกลับมาอีกครั้ง” และคุณผู้อ่านหลายท่านอาจรู้สึกกังวลไม่น้อย ที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงกับผู้สูงอายุมากกว่ากลุ่มอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งพบมากในวัยทอง
ดังนั้น การป้องกันตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากการฉีดวัคซีน ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างแล้ว อีกหนึ่งเกราะป้องกันสำคัญที่คุณผู้อ่านสามารถสร้างได้ด้วยตัวเองก็คือ “ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง” และวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ก็คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่าลืมว่า “อาหารคือยา” โดยเฉพาะในยามที่โควิดกลับมาเยือนอีกครั้ง การเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้องจะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยและห่างไกลจากโรคได้
ความเสี่ยงของวัยทองต่อโควิด-19
เมื่อพูดถึงโควิด-19 กับวัยทอง เราไม่สามารถมองข้ามความจริงที่ว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าวัยอื่นๆ หลายเท่า จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงกว่ากลุ่มอายุน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ทำไมวัยทองถึงมีความเสี่ยงสูงกว่า? มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง…
- ภูมิคุ้มกันถดถอยตามวัย
เมื่ออายุมากขึ้น…ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะเริ่มอ่อนแอลง เรียกว่าภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยตามวัย ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ไม่ดีเท่าเดิม ตอบสนองต่อวัคซีนได้น้อยลง และฟื้นตัวจากการติดเชื้อได้ช้าลง
- โรคประจำตัวที่พบบ่อยในวัยทอง
วัยทอง…มักมีโรคประจำตัวหลายอย่างโดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs 13:03/68 เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคไต ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและรับมือกับการติดเชื้อได้ยากขึ้น โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต
- การอักเสบเรื้อรัง
วัยทอง…มักมีภาวะการอักเสบเรื้อรังในร่างกายสูงกว่าวัยหนุ่มสาว ซึ่งภาวะนี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และอาจทำให้เกิด Cytokine Storm เมื่อติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้อาการรุนแรงขึ้นได้
- การฟื้นตัวที่ช้าลง
เมื่อเจ็บป่วย…ร่างกายของวัยทองจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าคนหนุ่มสาว เนื่องจากกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ช้าลง ทำให้ภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ง่าย
- ภาวะทุพโภชนาการ
วัยทองและผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยมีภาวะทุพโภชนาการ ขาดสารอาหารสำคัญ เนื่องจากกินอาหารได้น้อยลง การรับรสและกลิ่นเปลี่ยนไป หรือปัญหาในการเคี้ยวและกลืน ทำให้ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกัน
จากปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาทั้งหมด คุณผู้อ่านจึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของวัยทองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะภูมิคุ้มกัน คือ ระบบป้องกันตัวของร่างกาย เปรียบเสมือนกองทัพที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายในวัยทอง ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มอ่อนแอลงตามธรรมชาติ แต่เราสามารถชะลอความเสื่อมและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้ภูมิคุ้มกันมีความสำคัญต่อวัยทองมากๆ เพราะช่วย…
- ป้องกันการติดเชื้อ ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงจะช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ไม่เพียงแค่โควิด-19 แต่รวมถึงไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่อาจส่งผลรุนแรงในผู้สูงอายุ
- ลดความรุนแรงของโรค แม้จะติดเชื้อ แต่วัยทองผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงมักมีอาการไม่รุนแรง และฟื้นตัวได้เร็วกว่าผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ป้องกันโรคเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด ซึ่งพบบ่อยในวัยทอง
- ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันที่สมดุลจะช่วยลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความเสื่อมและความชราของเซลล์ต่างๆ
- ตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น ผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงจะตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีกว่า ทำให้การป้องกันโรคติดเชื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และแน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่วัยทอง ทำให้หลายอย่างในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ได้แก่…
- จำนวนเซลล์ภูมิคุ้มกันลดลง วัยทองมีการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ น้อยลง ทำให้มีกำลังรบน้อยกว่าเดิม
- ประสิทธิภาพการจดจำเชื้อโรคลดลง ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ ซึ่งทำหน้าที่จดจำเชื้อโรคที่เคยพบมาก่อน ทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม ทำให้อาจติดเชื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น
- การอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น วัยทองมักมีภาวะการอักเสบเรื้อรังระดับต่ำ ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
- การตอบสนองช้าลง เมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองช้ากว่าปกติ ทำให้เชื้อมีโอกาสแพร่กระจายมากขึ้น
อาหารต้านโควิด เสริมภูมิคุ้มกันสำหรับวัยทอง
อย่างที่เราบอกคุณผู้อ่านทุกคนไปแล้วว่า… “อาหาร คือ ยา” ที่เรารับประทานทุกวัน โดยเฉพาะในวัยทอง การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้
มาดูกันว่ากลุ่มอาหารใดบ้าง? ที่วัยทองควรรับประทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาด
โปรตีน
โปรตีน เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงเซลล์ภูมิคุ้มกัน การขาดโปรตีนจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยเฉพาะในวัยทองที่มีมวลกล้ามเนื้อลดลงตามธรรมชาติ การรับประทานโปรตีนคุณภาพดีจึงสำคัญมาก แนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานโปรตีนประมาณ 1-1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ผู้สูงอายุที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีน 60-72 กรัมต่อวัน โดยหาได้จาก…
- ปลา โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน นอกจากให้โปรตีนคุณภาพดีแล้ว ยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ เนื้อวัวส่วนที่ไม่ติดมัน ซึ่งให้โปรตีนสูงแต่ไขมันอิ่มตัวต่ำ
- ไข่ อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและวิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินดีในไข่แดงที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
- ถั่วเมล็ดแห้งและธัญพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลันเตา เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับวัยทองที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ และยังมีใยอาหารสูง โปรตีนจากพืช 05:02/68
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส ซึ่งนอกจากโปรตีนแล้วยังให้แคลเซียมที่สำคัญสำหรับกระดูกของวัยทอง
ผักและผลไม้
ผักและผลไม้ เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานผักและผลไม้หลากสีจะช่วยให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน แนะนำวัยทองให้พิ่มผักในทุกมื้ออาหาร ทั้งผักสดและผักปรุงสุก รวมถึงพยายามรับประทานผักและผลไม้อย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน (1 ส่วน = 1 กำมือ)
และสำหรับวัยทองที่มีปัญหาการเคี้ยวหรือกลืน อาจนำผักและผลไม้มาทำเป็นซุป น้ำผลไม้ หรือแยก เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น โดยแนะนำเป็น…
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักโขม ใบยอ อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
- พืชตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มีสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ที่กระตุ้นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
- พืชสีส้มและสีแดง เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ พริกหวาน มะละกอ มีเบต้าแคโรทีนและไลโคปีนสูง ซึ่งช่วยต้านการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
- ผลไม้ตระกูลส้ม เช่น ส้ม มะนาว ส้มโอ มะขามป้อม อุดมด้วยวิตามินซีที่ช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
โพรไบโอติกและพรีไบโอติก
ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันความสำคัญของระบบลำไส้ต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากประมาณ 70 – 80% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร โดยจะช่วยรักษาความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ เสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในลำไส้ ตลอดจนลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและทั่วร่างกาย เพื่อให้ช่วยในการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุ ป้องกันอาการท้องผูก ซึ่งพบบ่อยในวัยทอง การมีจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้จึงสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โดยสามารถหาได้จาก…
อาหารโพรไบโอติก (จุลินทรีย์ดี)
- โยเกิร์ต โดยเฉพาะชนิดที่มีการระบุว่ามีจุลินทรีย์มีชีวิต
- เทมเป้ อาหารหมักจากถั่วเหลือง
- กิมจิ ผักกาดขาวหมัก
- มิโซะ เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น
- ผักดอง และอาหารหมักต่างๆ
อาหารพรีไบโอติก (อาหารของจุลินทรีย์ดี):
- หัวหอมและกระเทียม มีสารอินูลินที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี
- กล้วย โดยเฉพาะกล้วยที่ยังไม่สุกเกินไป มีแป้งต้านทาน (Resistant Starch)
- ถั่วเมล็ดแห้ง มีใยอาหารพรีไบโอติกสูง
- ข้าวกล้อง และธัญพืชไม่ขัดสี
- แอปเปิ้ล มีเพกติน (Pectin) ซึ่งเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้
สมุนไพรและเครื่องเทศ
สมุนไพรและเครื่องเทศ ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติให้กับอาหารเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับวัยทอง โดยสมุนไพรและเครื่องเทศที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ประกอบด้วย…
- ขิง มีสารจินเจอรอลที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ไอ และคลื่นไส้
- ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบสูง ช่วยลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย
- กระเทียม มีสารอัลลิซินที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของการติดเชื้อทางเดินหายใจ
- พริกไทย มีสารพิเพอรีนที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
- อบเชย มีสารซินนามัลดีไฮด์ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ใบกะเพรา มีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด ไอ และช่วยขับเสมหะ
- ฟ้าทะลายโจร มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
- กานพลู มีสารยูจีนอลที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยบรรเทาอาการปวด
โอเมก้า-3 ไขมันดีต้านการอักเสบ
กรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงต้องได้รับจากอาหาร โอเมก้า-3 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือ สนับสนุนสุขภาพสมองและระบบประสาท ช่วยลดอาการข้ออักเสบและปวดข้อ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถหาได้จาก…
แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า-3
- ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล
- เมล็ดเจีย มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิด ALA สูง
- เมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดลินิน
- วอลนัท มีโอเมก้า-3 สูงกว่าถั่วชนิดอื่นๆ
- น้ำมันคาโนลา และน้ำมันถั่วเหลือง
เคล็ดลับการเพิ่มโอเมก้า-3 ในอาหารสำหรับวัยทอง
- รับประทานปลาทะเลอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
- เพิ่มเมล็ดเจียหรือเมล็ดแฟลกซ์บดในอาหารเช้า โยเกิร์ต หรือสลัด
- เลือกใช้น้ำมันที่มีโอเมก้า-3 สูง เช่น น้ำมันคาโนลา ในการปรุงอาหาร
- ทานวอลนัทเป็นอาหารว่าง
ธัญพืชไม่ขัดสี
ธัญพืชไม่ขัดสี เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ให้พลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวาน และอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ช่วยในระบบขับถ่าย ซึ่งช่วยสนับสนุนการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งล้วนสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยหาได้จาก…
- ข้าวกล้อง อุดมด้วยวิตามินบี ใยอาหาร และแร่ธาตุ
- ข้าวโอ๊ต มีเบต้ากลูแคน ซึ่งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
- ควินัว เป็นธัญพืชที่มีโปรตีนครบถ้วน
- ลูกเดือย มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบ
- ข้าวบาร์เลย์ อุดมด้วยใยอาหารละลายน้ำ
น้ำและเครื่องดื่มสมุนไพร
การทานน้ำอย่างเพียงพอต่อร่างกายของวัยทอง 05:03/68 เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกระบบในร่างกาย รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน น้ำช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ลำเลียงสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ และรักษาสมดุลของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยทองจะมักมีความรู้สึกกระหายน้ำลดลง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ง่าย
เป้าหมายการดื่มน้ำของวัยทอง: อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน (ประมาณ 2 ลิตร) หรือคำนวณง่ายๆ คือ 30 มล. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.
*กรณีเป็นโรคไตหรือโรคหัวใจ ต้องปรึกษาแพทย์เรื่องปริมาณน้ำที่เหมาะสม
นอกจากน้ำเปล่าแล้ว…เครื่องดื่มสมุนไพรไทยก็มีประโยชน์มหาศาล ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีไม่แพ้กัน มาดูกันว่ามีตัวไหนบ้าง
- น้ำขิง การดื่มน้ำขิงอุ่นๆ วันละแก้วจะช่วยต้านการอักเสบ อุ่นร่างกาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
- น้ำตะไคร้ นอกจากกลิ่นหอมสดชื่น ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ ลดไข้ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ตะไคร้มีสรรพคุณยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ด้วย
- น้ำใบเตย ใบเตยหอมไม่ได้มีดีแค่ทำให้ขนมหอม แต่ยังอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยล้างพิษในร่างกาย บำรุงเลือด และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
- น้ำมะตูม สมุนไพรชั้นดีที่คนโบราณใช้บำรุงปอด บำรุงธาตุ และเสริมภูมิคุ้มกัน เหมาะมากสำหรับวัยทองที่ต้องการปกป้องระบบทางเดินหายใจ
- น้ำกระเจี๊ยบ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความดันโลหิตสูง และเสริมภูมิคุ้มกัน
- น้ำอัญชัน ดอกไม้สีม่วงสวยนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงสายตา และช่วยลดการอักเสบ
- น้ำเก๊กฮวย ช่วยลดร้อนในร่างกาย ล้างพิษตับ และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เหมาะสำหรับวัยทองที่มีปัญหาร้อนใน หรือมีภาวะการอักเสบเรื้อรัง ชงดื่มง่ายๆ หาซื้อได้ตามร้านสมุนไพรทั่วไป
การดื่มน้ำและเครื่องดื่มสมุนไพรอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้วัยทองมีภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับมือกับโควิด-19 และโรคติดเชื้ออื่นๆ ได้ดีขึ้น เพราะร่างกายที่ชุ่มชื้นเหมาะสมจะทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจชุ่มชื้น และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีนั่นเอง
นอกจากการรับประทานอาหารตามด้านบนแล้ว อยากให้คุณผู้อ่านลองนึกภาพว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราเปรียบเสมือนกองทัพที่ต้องการทั้งทหาร อาวุธ และเสบียงที่ดี
วิตามินและแร่ธาตุก็เปรียบเสมือนเสบียงสำคัญที่ทำให้กองทัพภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในวัยทองที่ต้องการการเสริมแรงเป็นพิเศษ
มาดูกันว่ามีวิตามินและแร่ธาตุอะไรบ้างที่เราควรให้ความสำคัญ?
วิตามินซี
วิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเมื่อพูดถึงการเสริมภูมิคุ้มกัน เพราะวิตามินซีช่วยสนับสนุนการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันหลายชนิด โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นทหารหลักในการต่อสู้กับเชื้อโรค
วิตามินซีทำหน้าที่…
- เพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ แข็งแรง เป็นด่านแรกในการป้องกันเชื้อโรค
- ช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัด
โดยวัยทองควรได้รับวิตามินซีวันละ 75 – 90 มก. แต่ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 อาจเพิ่มเป็น 200 มก. ต่อวัน (ไม่ควรเกิน 2,000 มก. ต่อวัน) ซึ่งหากดูจากผลไม้แล้วละก็ ขอแนะนำเป็นผลไม้ต่างๆ ดังนี้…
- ฝรั่ง (1 ผลกลาง = 125 มก.)
- ส้ม (1 ผลกลาง = 70 มก.)
- มะละกอสุก (1 ถ้วย = 88 มก.)
- พริกหวาน (½ ถ้วย = 95 มก.)
- บรอกโคลี (½ ถ้วย = 50 มก.)
- กะหล่ำปลี (1 ถ้วย = 56 มก.)
- มะเขือเทศ (1 ผลกลาง = 16 มก.)
วิตามินดี
วิตามินดี ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพราะมีงานวิจัยพบว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำ มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อโควิด-19 โดยวิตามินดีมีส่วนช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ตอบสนองมากเกินไปจนเกิดพายุไซโตไคน์
วิตามินดีทำหน้าที่…
- กระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสร้างสารที่ฆ่าเชื้อโรค
- ช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ
- ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้สมดุล ไม่ตอบสนองมากหรือน้อยเกินไป
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแบ่งแยกเชื้อโรคและเซลล์ปกติได้ดีขึ้น
แนะนำว่าวัยทองควรได้รับวิตามินดีวันละ 800 – 1,000 IU โดยนอกจากรับประทานในรูปแบบของอาหารเสริมแล้ว แหล่งวิตามินดีที่หาได้ง่ายที่สุดอย่างแสงแดดยามเช้าแล้ว ก็สามารถหาได้จาก…
- ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน
- ไข่แดง
- ตับ
- นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่เสริมวิตามินดี
- เห็ดหอม
วิตามินอี
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ รวมถึงเซลล์ภูมิคุ้มกันจากความเสียหาย และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดียิ่งขึ้น วิตามินอียังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
โดยวัยทองควรได้รับวิตามินอีวันละ 15 มก. (22.5 IU) เป็นอย่างน้อย โดยสามารถหาได้จาก…
- น้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง
- ถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า
- อะโวคาโด
- ปลา
- ฟักทอง มันเทศ
สังกะสี
สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน เพราะมีส่วนช่วยในการสร้างและพัฒนาเซลล์ภูมิคุ้มกัน และจำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย ช่วยต้านการอักเสบ ลดระยะเวลาของโรคหวัดได้ ดังนั้น การขาดสังกะสีจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยทองที่มักมีปัญหาการดูดซึมสารอาหารลดลง สำหรับวัยทองเราแนะนำว่าควรได้รับอย่างน้อยวันละ 8 – 11 มก. โดยสามารถหาได้จาก…
- เนื้อแดง
- อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรม
- ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง
- เมล็ดฟักทอง
- งา
- ธัญพืชไม่ขัดสี
ซีลีเนียม
ซีลีเนียม เป็นแร่ธาตุที่มักถูกมองข้ามและหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อเท่ากับวิตามินต่างๆ ตามด้านบน แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในการต่อต้านไวรัส ซีลีเนียมเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบในร่างกาย ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวัยทองควรได้รับซีลีเนียมวันละ 55 ไมโครกรัม และหาได้จากแหล่งอาการต่างๆ คือ
- บราซิลนัท (1-2 เม็ดต่อวันก็เพียงพอแล้ว)
- ปลา
- เนื้อสัตว์
- ไข่
- ถั่วเมล็ดแห้ง
- ธัญพืชไม่ขัดสี
และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่พลาดไม่ได้ เพราะว่ากระปุกนี้เขาได้รวบรวมสารสกัดสำคัญจากธรรมชาติมาไว้ให้คุณแล้วอย่างลงตัว วันนี้ขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อาจช่วยเป็นมิตรภาพดีๆ ในการดูแลสุขภาพในช่วงวัยทองกับ ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) อาหารเสริมสำหรับผู้ชายวัยทอง และ ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) คู่ใจสุขภาพวัยทองของคุณผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับวัยทองและผู้สูงอายุกลายเป็นเรื่องสำคัญยิ่งขึ้น เรามาเริ่มต้นกันที่ตัวแรก…
ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) อาหารเสริมสำหรับผู้ชายวัยทอง เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของวัยทอง โดยรวบรวมสารสกัดธรรมชาติ 7 ชนิดในแคปซูลเดียว ประกอบด้วย…
1. สารสกัดจากโสมเกาหลี
โสมเกาหลี เป็นสมุนไพรมหัศจรรย์ที่มีการใช้งานมายาวนานกว่า 2,000 มีประโยชน์อย่างมากในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันโควิด-19
2. สารสกัดจากฟีนูกรีก
ฟีนูกรีก เป็นเมล็ดพืชที่มีสารสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะไดออสเจนินที่มีฤทธิ์ในการปรับระดับฮอร์โมนและคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุที่มีภาวะการอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น
3. แอล-อาร์จีนีน
แอล-อาร์จีนีน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง แต่ความต้องการจะเพิ่มขึ้นตามวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
4. สารสกัดกระชายดำ
กระชายดำ เป็นสมุนไพรไทยที่มีสารสำคัญ คือ เมทอกซีฟลาโวโนอิด ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบสูง เข้ากับภูมิปัญญาไทยในการดูแลสุขภาพของวัยทองและผู้สูงอายุ
5. ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลท
สังกะสีในรูปแบบคีเลท มีการดูดซึมดีกว่าสังกะสีทั่วไป สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบภูมิคุ้มกันกในการต่อสู้กับเชื้อโรค แก้ปัญหาการรับรสที่เปลี่ยนไปตามวัย
6. สารสกัดจากแปะก๊วย
แปะก๊วย เป็นสมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยมากที่สุดสำหรับสุขภาพสมองและการไหลเวียนโลหิต โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่กังวลเรื่องความจำและสมาธิ ช่วยชะลอและปกป้องสมองเสื่อม
7. สารสกัดจากงาดำ
งาดำ เป็นเมล็ดที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ โดยเฉพาะเซซามิน ลิกแนน และแคลเซียม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับวัยทองและผู้ที่ความกังวลเรื่องกระดูก ผม เล็บ และลดระดับระดับคอเลสเตอรอลเลวและเพิ่มคอเลสเตอรอลดี
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
และตัวถัดมา ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) คู่ใจสุขภาพวัยทองของคุณผู้หญิงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติถึง 6 ชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีเหมือนกับการที่เราปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ต้องเลือกวัตถุดิบดีๆ มาผสมผสานให้ได้รสชาติและประโยชน์ที่สมบูรณ์
1. สารสกัดจากถั่วเหลืองนำเข้าจากประเทศเสปน
สกัดจากถั่วเหลืองจากประเทศเสปนที่มีคุณภาพสูง มีสารไอโซฟลาโวนส์ที่เป็นฮอร์โมนจากพืช ช่วยสนับสนุนการทำงานของร่างกายในวัยทอง โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาความสมดุลของฮอร์โมน และยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
2. สารสกัดจากตังกุย
ตังกุย สมุนไพรจีนโบราณที่ได้รับฉายาว่า “โสมหญิง” เพราะมีประโยชน์โดยเฉพาะกับผู้หญิงวัยทอง สมุนไพรชนิดนี้ช่วยบำรุงโลหิต เสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย และช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิต
3. สารสกัดจากแปะก๊วย
แปะก๊วย หรือ Ginkgo biloba นั้น มีประโยชน์โดยเฉพาะในเรื่องการไหลเวียนโลหิตไปยังสมอง และช่วยเสริมสร้างความจำ ให้สมองยังแหลมคม ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี และอาจช่วยชะลอการเสื่อมของความจำได้
4. สารสกัดจากงาดำ
งาดำ เป็นเมล็ดเล็กๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากในแพทย์แผนไทยและจีน งาดำถือเป็นยาบำรุงที่สำคัญ มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม ผิวพรรณ และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ดีมากๆ สำหรับวัยทอง
5. ออร์แกนิค แครนเบอร์รี่
แครนเบอร์รี่ผลเบอร์รี่เปรียวๆ สีแดงสวยที่มีชื่อเสียงในเรื่องการดูแลระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะการป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยทองนอกจากนี้ แครนเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันการอักเสบในร่างกาย
6. อินูลิน พรีไบโอติก
อินูลิน เป็นไฟเบอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า พรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ การมีจุลินทรีย์ดีในลำไส้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร และแม้แต่ระบบภูมิคุ้มกัน เพราะลำไส้นั้นเป็นอวัยวะที่มีเซลล์ภูมิคุ้มกันมากที่สุดในร่างกาย
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) คู่ใจสุขภาพวัยทองของคุณผู้หญิง เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทอง โดยเฉพาะผู้หญิงที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน หรือใครที่รู้สึกว่าร่างกายเริ่มเหนื่อยง่าย ความจำเริ่มไม่ดี หรือต้องการเสริมภูมิคุ้มกันในช่วงที่โรคติดเชื้อต่างๆ กำลังระบาด
ส่วน ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) อาหารเสริมสำหรับผู้ชายวัยทอง เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ชายวัยทองโดยเฉพาะ ด้วยการรวบรวมสารสกัดธรรมชาติ 7 ชนิดที่มีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพ ในยุคที่โควิด-19 กลับมาและการดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญยิ่งขึ้น การเสริมสารอาหารที่เหมาะสมอาจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้วัยทองมีสุขภาพแข็งแรงและภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต
ทานง่ายๆ เพียงครั้งละ 1 แคปซูลในมื้ออาหารที่สะดวก วันละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้ทานติดต่อกัน 1 – 3 เดือน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายยิ่งขึ้น วัยทองที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ จะสามารถต่อสู้กับโควิด-19 และเชื้อโรคอื่นๆ ได้ดีกว่า มีอาการไม่รุนแรงหากติดเชื้อ และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ดังนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน
มีอาหารที่ควรรับประทานแล้ว… ก็ควรทราบอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย!!
หลีกเลี่ยงแล้วดี…เพื่อสุขภาพวัยทอง
การเลือกกินอาหารดีๆ เป็นเรื่องสำคัญฉันใด การรู้ว่าอาหารแบบไหนควรหลีกเลี่ยงก็สำคัญไม่แพ้กันฉันนั้น เปรียบเสมือนเรารู้จักเพื่อนที่ดี เราก็ควรรู้จักหลีกห่างคนที่ไม่ดีด้วย มาดูกันว่ามีอาหารประเภทไหนบ้างที่อาจเป็น “เพื่อนไม่ดี” ต่อสุขภาพของเราในวัยทอง โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดกลับมาเยือนอีกครั้ง
1. อาหารรสเค็มจัด
เกลือหรือโซเดียม เป็นเพื่อนคู่ครัวที่ขาดไม่ได้ แต่ถ้าคุณผู้อ่านทานมากเกินไปก็กลายเป็นภัยได้ โดยเฉพาะกับวัยทองที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ความดันที่สูงขึ้นยังส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนัก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และถ้าเกิดติดโควิด-19 อาการก็อาจรุนแรงขึ้นได้
โดยแนะนำว่าหากคุณผู้อ่านต้องการเติมให้ลองใช้สมุนไพรหรือเครื่องเทศแทนเกลือบ้าง เช่น กระเทียม ขิง ข่า ตะไคร้ พริกไทย โหระพา กะเพรา ไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร แต่ยังมีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกันอีกด้วย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารแปรรูปเค็มจัด เช่น ปลาเค็ม ปลาร้า กะปิ
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และซุปก้อนสำเร็จรูป
- อาหารกระป๋องที่มีโซเดียมสูง
- น้ำจิ้มหรือซอสปรุงรสต่างๆ
2. อาหารรสหวานจัด
น้ำตาล ทำให้อาหารอร่อย แต่ถ้ามากเกินไปก็เป็นโทษ โดยเฉพาะในวัยทองที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน น้ำตาลยังทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงโควิด-19
ซึ่งถ้าหากอยากหวาน อยากให้ลองใช้ผลไม้สดที่มีรสหวานธรรมชาติแทน เช่น กล้วย แอปเปิ้ล ส้ม หรือถ้าจำเป็นต้องใช้สารให้ความหวาน อาจใช้หญ้าหวานหรือน้ำผึ้งในปริมาณน้อยๆ แทนน้ำตาลทราย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ขนมหวาน เบเกอรี่ และเค้ก
- น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาเย็น กาแฟเย็นใส่นมข้น
- น้ำผลไม้กล่องสำเร็จรูป (มักมีน้ำตาลเยอะ)
- อาหารแปรรูปที่มีน้ำตาลซ่อนอยู่ เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำสลัด
3. ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
ไขมันบางชนิด เป็นมิตรกับร่างกาย แต่ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์เป็นศัตรูตัวร้ายต่อร่างกายของวัยทอง โดยเฉพาะกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ไขมันเหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดให้กับวัยทอง 04:04/68
แนะนำคุณผู้อ่านให้เลือกใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันคาโนลาในการประกอบอาหาร และเลือกวิธีนึ่ง ต้ม อบ ย่าง แทนการทอด
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารทอดน้ำมันลึก เช่น กล้วยทอด ปาท่องโก๋
- หนังไก่ หนังหมู และมันสัตว์
- เนยเทียม มาการีนที่มีไขมันทรานส์
- อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์
- ขนมขบเคี้ยวประเภทมันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แม้จะมีงานวิจัยบอกว่าการดื่มไวน์แดงในปริมาณน้อยอาจมีประโยชน์ต่อหัวใจ แต่โดยรวมแล้ว แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า โดยเฉพาะในวัยทอง แอลกอฮอล์ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ตับต้องทำงานหนัก และยังรบกวนการนอนหลับซึ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกาย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยเฉพาะในปริมาณมาก
- การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยาบางชนิด
5. คาเฟอีนปริมาณมาก
กาแฟหรือชาสักถ้วยในตอนเช้าไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่การดื่มคาเฟอีนมากเกินไปหรือดื่มใกล้เวลานอนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งการนอนหลับที่ดีนั้นสำคัญมากต่อระบบภูมิคุ้มกันในวัยทอง
หากต้องการดื่มจริงๆ ลองเปลี่ยนมาดื่มชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน เช่น ชาใบหม่อน ชาดอกคำฝอย ชาใบเตย หรือน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งมะนาว
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- การดื่มกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังบ่ายสามโมง
- การดื่มกาแฟหรือชาเข้มข้นหลายแก้วต่อวัน
- เครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีนสูง
6. อาหารแปรรูปสูง
อาหารแปรรูปสูงมักมีรสชาติที่อร่อย แต่ก็ประกอบไปด้วยสารเคมี สารกันเสีย สารแต่งสี สารให้กลิ่นรส เกลือ และน้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพโดยรวมและระบบภูมิคุ้มกันของวัยทอง อาหารเหล่านี้ยังมักมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ไม่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแต่อย่างใด
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารกึ่งสำเร็จรูปต่างๆ
- ไส้กรอก แฮม เบคอน และเนื้อแปรรูป
- ขนมขบเคี้ยวที่มีสารแต่งสีและกลิ่นรสสังเคราะห์
- อาหารกระป๋องที่มีน้ำเกลือหรือน้ำเชื่อม
7. อาหารที่ผ่านการปรุงแต่งมากเกินไป: ขโมยสารอาหาร
อาหารที่ผ่านการปรุงแต่งมากเกินไป เช่น การสีขัด การขัดขาว หรือการแปรรูปซ้ำซ้อน มักสูญเสียวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่มีประโยชน์ไป ทำให้ได้แค่พลังงานแต่ไม่ได้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมภูมิคุ้มกัน
แนะนำให้วัยทองควรเลือกรับประทานอาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ยิ่งแปรรูปน้อย ยิ่งดีต่อสุขภาพ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ข้าวขาว (เลือกข้าวกล้องหรือข้าวไม่ขัดสีแทน)
- แป้งขัดขาว (เลือกแป้งโฮลเวทหรือแป้งธัญพืชแทน)
- น้ำตาลทรายขาว (เลือกน้ำตาลที่ผ่านการขัดสีน้อย เช่น น้ำตาลทรายแดง หรือใช้น้ำผึ้งในปริมาณน้อยแทน)
เคล็ดลับ: เลือกอาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ยิ่งแปรรูปน้อย ยิ่งดีต่อสุขภาพ
สรุป
“ไม่มีอาหารแบบเดียวที่ดีที่สุด และไม่มีอาหารแบบเดียวที่แย่ที่สุด” สมดุล คือ กุญแจสำคัญ การรับประทานอาหารหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน บางครั้งการหลีกเลี่ยงไม่ได้หมายถึงการห้ามเด็ดขาด แต่หมายถึงการจำกัดปริมาณและความถี่ สำหรับอาหารที่คุณชื่นชอบแต่อาจไม่ดีต่อสุขภาพนัก อาจรับประทานได้บ้างในโอกาสพิเศษ แต่ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง การเลือกรับประทานอาหารอย่างฉลาด หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำร้ายภูมิคุ้มกัน และเลือกอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับมือกับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
จำไว้ว่า “อาหารคือยา” การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดี คือการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐานที่ง่ายที่สุดและได้ผลดีที่สุด ยิ่งในวัยทอง ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่มีคุณภาพ และอย่าลืมนึกถึงสุขภาพ…ต้องนึกถึงดีเน่ DNAe…