ไอนั่นอยู่ไหน?
ไอนี่วางไว้ตรงไหนนะ?
วางเมื่อกี้ หายไปไหน?
หรือเรากำลังจะเป็น “อัลไซเมอร์” แล้ว!!
…
เมื่อคุณผู้อ่านก้าวเข้าสู่วัยทอง หลายคนคงจะเริ่มสงสัยในตัวเองบ้างแล้วว่า…เวลาที่ลืมกุญแจวางไว้ตรงไหน หรือจำชื่อคนที่เพิ่งมาทักทายไม่ได้ จนใจก็เริ่มวิตกว่ากังวลแล้วว่า “นี่เราจะเป็นอัลไซเมอร์รึเปล่านะ?” วันนี้ออยลี่เลยอยากมาชวนคุยกันเรื่องนี้แบบเพื่อนคุยกับเพื่อน ไม่ต้องตกใจหรือกังวลไปก่อน แต่คุณผู้อ่านก็ควรรู้ให้ถูกต้องเพื่อดูแลสุขภาพสมองของเราให้ดีที่สุด
“อัลไซเมอร์” เป็นโรคที่วัยทองหลายคนเข้าใจผิดกันบ่อยๆ วัยทองบางคนคิดว่าเป็นแค่ความลืมธรรมดาที่มาพร้อมกับวัย แต่จริงๆ แล้วอัลไซเมอร์เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความจำ การคิด การตัดสินใจ และการทำกิจวัตรประจำวันเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ นั่นเอง โดยอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุหลักของโรคสมองเสื่อม (Dementia) คิดเป็นประมาณ 60 – 70% ของผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด ในประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยอัลไซเมอร์ประมาณ 600,000 – 800,000 คน และจำนวนนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประชากรสูงอายุในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้น
ออยลี่อยากให้วัยทองทุกๆ ท่านลองคิดภาพตามนะคะว่า… สมองของเราเหมือนห้องสมุดใหญ่ที่เก็บความทรงจำและความรู้ไว้หลายล้านเล่ม เมื่อเป็นอัลไซเมอร์ ก็เหมือนกับมีไฟไหม้ห้องสมุดนี้ทีละส่วน ก็เหมือนกับความทรงจำ เรื่องราวต่างๆ ที่ถูกทำลายไปเรื่อยๆ และไม่สามารถกู้คืนได้
สิ่งที่ออยลี่อยากให้วัยทองทุกคนต้องทำความเข้าใจเลยก็คือ “อัลไซเมอร์” ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแก่ตัวตามธรรมชาติ แม้ว่าอายุจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าวัยทองทุกคนที่อายุมากขึ้นจะต้องเป็นอัลไซเมอร์เสมอไป ผู้สูงอายุหลายคนอายุ 80 – 90 ปีแล้ว ยังมีสมองที่แจ่มใสและความจำที่ดี
…
“อัลไซเมอร์”
เริ่มต้น…ด้วยอาการแอบแฝง และค่อยๆ
เริ่มปรากฎออกมาให้เห็น
….
อาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์ที่ไม่ควรมองข้าม
อาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์มักจะแอบแฝงและค่อยๆ ปรากฏออกมาทีละน้อยๆ จนบางครั้งตัวของวัยทองและคนรอบข้างเอง อาจจะคิดว่าเป็นแค่ความลืมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วโรคอัลไซเมอร์นี้มีสัญญาณเตือนที่วัยทองสังเกตได้
ลองมาดูพร้อมกับออยลี่ว่าคุณผู้อ่านเคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่?
- ความจำระยะสั้นเสื่อมอย่างผิดปกติ
เป็นอาการแรกที่พบบ่อยที่สุดว่าวัยทองอาจกำลังมีสัญญาของโรคอัลไซเมอร์ โดยอาจจะเริ่มสังเกตได้ว่าลืมสิ่งที่เพิ่งได้ยินหรือเพิ่งทำไป เช่น ลืมว่าเพิ่งคุยเรื่องอะไรกับลูกเมื่อสักครู่ ลืมว่าวางแว่นตาไว้ตรงไหน หรือถามเรื่องเดิมซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัวว่าเพิ่งถามไปแล้ว ที่น่าสังเกตคือ ความทรงจำเก่าแก่อาจจะยังคงชัดเจนอยู่ วัยทองอาจจะจำเรื่องราวในวัยเด็กหรือเหตุการณ์สำคัญในอดีตได้ดี แต่กลับจำไม่ได้ว่าเมื่อวานทานอะไรเป็นอาหารเช้า
- ปัญหาการใช้ภาษาและการสื่อสาร
เริ่มจากการหาคำพูดไม่เจอ โดยเฉพาะคำนามที่ใช้บ่อยๆ เช่น อยากจะพูดว่า “ช้อน” แต่วัยทองหาคำนี้ไม่เจอ ก็อาจจะพูดว่า “อันที่ใช้ตักข้าว” แทน หรือเรียกสิ่งของผิดชื่อ เช่น เรียกโทรศัพท์ว่า “วิทยุ” การเขียนและการอ่านก็อาจจะมีปัญหาตามมา อ่านหนังสือแล้วไม่เข้าใจความหมาย หรือเขียนจดหมายแล้วคำไม่เรียงเป็นประโยค ทำให้คนอ่านงงว่าต้องการจะสื่ออะไร นี่ก็ถือเป็นอาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์ที่วัยทองไม่ควรมองข้าม
- สูญเสียการตัดสินใจและการวางแผน
เป็นอีกอาการหนึ่งของวัยทองที่มีอาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อาจจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆ เช่น ไม่รู้ว่าจะใส่เสื้อผ้าชุดไหนดี หรือไม่รู้ว่าจะสั่งอาหารอะไร แล้วค่อยๆ ลุกลามไปสู่เรื่องใหญ่ขึ้น เช่น การจัดการเรื่องเงิน การจ่ายบิล หรือการวางแผนเดินทางวัยทองบางคนอาจจะเริ่มตัดสินใจผิดๆ บ่อยขึ้น เช่น ซื้อของที่ไม่จำเป็น หรือให้เงินคนแปลกหน้าที่มาขอ เพราะสูญเสียความสามารถในการประเมินสถานการณ์
- สับสนเรื่องเวลาและสถานที่
เป็นอาการของวัยทองที่เป็นอัลไซเมอร์ที่ทำให้ครอบครัวเริ่มกังวล คุณอาจจะหลงทางในสถานที่ที่คุ้นเคย เช่น ไปตลาดที่ไปมาเป็นปีๆ แล้วกลับบ้านไม่เป็น หรือสับสนว่าตอนนี้เป็นวันอะไร เดือนอะไร บางครั้งอาจจะสับสนเรื่องเวลา เช่น ตื่นตี 3 แล้วเตรียมตัวไปทำงาน หรือรอคนที่เสียชีวิตไปแล้วมาเยี่ยม เพราะคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่
- บุคลิกภาพและพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากอัลไซเมอร์
เรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คนใกล้ชิดของวัยทองสังเกตเห็นก่อน คนที่เคยเป็นมิตรกลายเป็นขี้สงสัย คนที่เคยสงบกลายเป็นหงุดหงิดง่าย หรือคนที่เคยขยันกลายเป็นไม่สนใจอะไรเลย วัยทองบางคนอาจจะเริ่มกลัวสิ่งที่ไม่เคยกลัว เช่น กลัวออกจากบ้าน กลัวคนแปลกหน้า หรือมีอาการหวาดระแวงว่าคนอื่นจะทำร้าย หรือเอาของไป
- ปัญหาการทำกิจวัตรประจำวัน
เป็นอาการที่ปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อโรคอัลไซเมอร์เริ่มลุกลาม งานบ้านที่วัยทองเคยทำได้ง่ายๆ เริ่มทำไม่ได้ เช่น ปรุงอาหาร ซักผ้า หรือดูแลส่วนตัว การอาบน้ำ แปรงฟัน หรือแต่งตัวอาจจะเริ่มทำไม่เป็นหรือลืม ทำให้สุขอนามัยส่วนตัวเสื่อมลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกว่าความสามารถในการดูแลตัวเองเริ่มลดลง
ปัจจัยเสี่ยงอัลไซเมอร์ที่วัยทองควรรู้
จาก 6 ข้อที่กล่าวมา…ว่าเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ สิ่งนี้อาจจะทำให้วัยทองหลายท่านที่กำลังอ่านเรื่องราวอยู่ ณ ขณะนี้อาจมีคำถามว่า “นี่ฉันมีโรคอัลไซเมอร์” เข้ามาในชีวิตแล้วเหรอ ออยลี่อยากจะบอกทุกคนว่ายังไม่ใช่นะคะ
ออยลี่จะบอกว่าอาการที่บางท่านเคยมี หรือเคยประสบพบเจอมาเหมือน 6 ข้อด้านบน เราควรแยกแยะความลืมแบบปกติ กับ อาการเริ่มต้นของสัญญาณเตือนอัลไซเมอร์ให้ออกด้วย
ความลืมปกติตามวัย
มักจะเป็นการลืมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของวัยทอง เช่น ลืมชื่อคนที่ไม่ค่อยได้เจอ ลืมเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือลืมว่าวางกุญแจรถไว้ตรงไหน แต่เมื่อมีคนช่วยบอกใบ้หรือเห็นสิ่งของนั้นก็จำได้ทันที วัยทองที่มีความลืมปกติตามวัยจะยังคงทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ขับรถไปทำงานได้ จ่ายบิลได้ ทำงานบ้านได้ และที่สำคัญคือ ตัวเองรู้ว่าตัวเองลืมบ่อยขึ้น ซึ่งแตกต่างจากอาการของอัลไซเมอร์
สัญญาณเตือนอัลไซเมอร์
จะมีลักษณะแตกต่างออกไป คือการลืมที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ลืมเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ใช่แค่รายละเอียด เช่น ลืมว่าเพิ่งไปงานแต่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลืมหมดเลยว่าได้ไปงานนั้น การลืมในอัลไซเมอร์วัยทองจะไม่สามารถจำคืนได้ แม้จะมีคนมาช่วยบอกใบ้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยมักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองลืม หรือปฏิเสธว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องความจำ
ลองมาดูเหตุการณ์เปรียบเทียบระหว่างความลืมปกติ VS สัญญาณเตือนเริ่มต้นอัลไซเมอร์
วัยทองลืมปกติ | สัญญาณอัลไซเมอร์ |
วัยทองลืมว่าใส่แว่นตาไว้ตรงไหน? แต่เมื่อเห็นแว่นตาก็จำได้ว่าใส่ไว้ตรงนั้น | วัยทองถือแว่นตาอยู่ในมือแล้วยังหาแว่นตา หรือไม่รู้ว่าแว่นตาใช้ทำอะไร? |
วัยทองลืมชื่อคนที่เพิ่งรู้จัก แต่จำหน้าตาและบุคลิกได้ | วัยทองลืมหน้าตาลูกหลาน หรือจำไม่ได้ว่าเป็นใครกัน? |
ไปซื้อของ 5 อย่าง แต่ซื้อมาได้แค่ 4 อย่าง | วัยทองไปร้านค้าแล้วลืมว่ามาทำอะไร? หรือจ่ายเงินไม่เป็น |
การเข้าใจปัจจัยเสี่ยงของอัลไซเมอร์ของวัยทองจะช่วยให้คุณผู้อ่านและตนเองสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ออยลี่แบ่งให้ออกเป็น 2 ประเภท คือ ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และปัจจัยที่วัยทองสามารถควบคุมได้นั้นเอง
- ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
- อายุ เพศ และพันธุกรรม อายุเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 5 ปี หลังจากอายุ 65 ปี ผู้หญิงวัยทองมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ชายวัยทอง อาจเป็นเพราะผู้หญิงมีอายุยืนกว่าและฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงหลังวัยหมดประจำเดือน และก้าวเข้าสู่วัยทอง ซึ่งมีความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์
- ด้านพันธุกรรม หากวัยทองมีญาติสายตรงเป็นอัลไซเมอร์ ความเสี่ยงของอัลไซเมอร์ก็จะสูงขึ้นตามโดยเฉพาะถ้าเป็นพ่อแม่หรือพี่น้อง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเป็นแน่นอน เพียงแค่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
- ปัจจัยที่ควบคุมได้
- การศึกษาและการใช้สมองอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้าง “สมองสำรอง” ที่ทำให้สมองวัยทองสามารถต้านทานการเสื่อมได้ดีกว่า วัยทองที่มีการศึกษาสูงหรือทำงานที่ต้องใช้ความคิดมีความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ต่ำกว่า
- การออกกำลังกายของวัยทองช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมองใหม่ และลดการอักเสบ แม้แค่เดินเร็วสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ก็ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์ได้แล้ว
- โรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง โรคฮิตกลุ่ม NCDs ของวัยทอง 13:03/68 สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ เพราะทำให้หลอดเลือดในสมองเสื่อม การควบคุมโรคเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงสำคัญมาก
- การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปของวัยทอง 14:02/68 สามารถทำลายเซลล์สมองและเพิ่มความเสี่ยงอัลไซเมอร์ได้ การเลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ได้ดี
- ปัจจัยเสี่ยงจากการใช้ชีวิตของวัยทอง
- การนอนหลับที่ดีของวัยทองมีบทบาทในการขจัดสารพิษออกจากสมอง หากวัยทองนอนไม่เพียงพอหรือนอนไม่หลับ จะทำให้สารพิษสะสมและเพิ่มความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์
- ความเครียดเรื้อรังของวัยทอง ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ซึ่งทำลายเซลล์สมองโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับความจำ การจัดการความเครียดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เกิดอัลไซเมอร์
- การขาดการเข้าสังคมของวัยทอง ทำให้สมองขาดการกระตุ้น เหมือนกับกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้จะลีบ สมองก็เช่นกัน การพูดคุย การมีกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นช่วยรักษาความแข็งแรงของสมอง จนเกิดอาการอัลไซเมอร์ตามมา
ป้องกันและดูแลสุขภาพสมองวัยทองตั้งแต่เนิ่น…
การป้องกันอัลไซเมอร์สำหรับวัยทองเป็นเรื่องที่ทำได้และควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอให้มีอาการ เพราะการดูแลสุขภาพสมองเป็นเรื่องระยะยาว เหมือนกับการดูแลสุขภาพกายและใจ
ออยลี่ขอแนะนำให้วัยทองทุกท่านเริ่มดูแลสมอง และห่างไกลโรคอัลไซเมอร์ ได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นที่…
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอัลไซเมอร์ของวัยทอง เพราะการออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง กระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ และเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง โดยวัยทองไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักมาก แค่เดินเร็วๆ วันละ 30 นาที หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ก็เพียงพอต่อการออกกำลังของวัยทองแล้ว
การว่ายน้ำ การเต้นรำ การทำสวน หรือการเล่นกีฬาเบาๆ ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น สิ่งสำคัญ คือความสม่ำเสมอ การออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียด ปรับปรุงอารมณ์ และทำให้วัยทองนอนหลับดีขึ้น ห่างไกลอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
- เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสมอง
อาหารที่วัยทองเลือกรับประทานมีผลต่อสุขภาพสมองโดยตรง อาหารที่ดีต่อสมองจะช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมอง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบประสาท เช่น
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักคะน้า ผักโขม บร็อกโคลี มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่ช่วยป้องกันสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ แนะนำให้วัยทองควรทานทุกวันในปริมาณที่เหมาะสม
- ปลาน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน มีกิจไฮม์แอสิดโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมองและลดการอักเสบ วัยทองควรทานสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์
- ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วอัลมอนด์ ถั่ววอลนัท เมล็ดฟักทอง มีวิตามิน E และแมกนีเซียมที่ดีต่อสมอง วัยทองสามารถทานเป็นของว่างแทนขนมหวานจะดีต่อสุขภาพ
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยปรับปรุงความจำและการเรียนรู้ของวัยทอง พ้นจากอัลไซเมอร์
- ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คิวมินที่ช่วยลดการอักเสบในสมอง การใส่ขมิ้นในอาหารหรือดื่มน้ำขมิ้นช่วยป้องกันการเสื่อมของสมอง หรืออัลไซเมอร์ให้แก่วัยทอง
สิ่งที่วัยทองควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารที่มีน้ำตาลมาก อาหารทอด อาหารแปรรูปสูง และเนื้อแดงมากเกินไป เพราะอาหารเหล่านี้เพิ่มการอักเสบและเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพสมองด้วย ซึ่งอาจทำให้เป็นอัลไซเมอร์ได้
สิ่งหนึ่งที่วัยทองหลายคนมักมองข้าม คือ ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างสุขภาพร่างกายโดยรวมกับสุขภาพสมอง ในวัยทองร่างกายของเราเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองโดยตรง ดังนั้น การเข้าใจและดูแลร่างกายให้แข็งแรงในวัยทองจึงไม่ใช่เพียงแค่การรักษาสุขภาพกายภาพ แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อปกป้องสมองจากการเสื่อมและลดความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์อีกด้วย การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัดจากธรรมชาติและมีงานวิจัยรองรับจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะสารสกัดที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และส่งเสริมการไหลเวียนเลือด
ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงวัยทองโดยเฉพาะ โดยรวมสารสกัดจากธรรมชาติถึง 6 ชนิดในแคปซูลเดียว แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เสริมซึ่งกันและกันในการดูแลสุขภาพโดยรวม เริ่มต้นด้วย…
- สารสกัดจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากประเทศสเปน
ถั่วเหลือง เป็นแหล่งของไอโซฟลาโวนที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยชดเชยการขาดแคลนฮอร์โมนในวัยทองโดยเฉพาะผู้หญิง ไอโซฟลาโวนยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลาย และมีงานวิจัยแสดงว่าช่วยปรับปรุงความจำและการเรียนรู้ในวัยทอง ซึ่งอาจช่วยให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากตังกุย
สมุนไพรจีนที่มีชื่อเสียงในการบำรุงเลือดและปรับสมดุลฮอร์โมน ตังกุยช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากเลือดไหลเวียนไม่ดีของวัยทอง และช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนในวัยทอง การมีเลือดไหลเวียนดีจะส่งผลดีต่อการเลี้ยงสมองและลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง และอาจรวมถึงอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากแปะก๊วย
แปะก๊วยช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง ปกป้องเซลล์ประสาทจากการถูกทำลาย และอาจช่วยชะลอการเสื่อมของความจำวัยทองที่อาจนำไปสู่อัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะและปรับปรุงสมาธิอีกด้วย
- สารสกัดจากงาดำ
งาดำ มีสารเซซามินและเซซาโมลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์สมองของวัยทองจากความเครียดออกซิเดชัน งาดำยังมีแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ดีต่อระบบประสาทและช่วยให้นอนหลับดีขึ้น การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการขจัดสารพิษออกจากสมองและฟื้นฟูเซลล์สมองให้แก่วัยทองได้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์
- ออร์แกนิกแครนเบอร์รี่
แหล่งของสารแอนโทไซยานินและโปรแอนโทไซยานิดินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ แครนเบอร์รี่ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือด ปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือด และมีงานวิจัยแสดงว่าช่วยปรับปรุงความจำระยะสั้นในผู้สูงอายุ
- อินูลินพรีไบโอติก
เส้นใยอาหารที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้ การมีระบบย่อยอาหารที่แข็งแรงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพสมองวัยทอง เพราะลำไส้ผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิดรวมทั้งเซโรโทนินที่ส่งผลต่ออารมณ์และการนอนหลับ อินูลินยังช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและแมกนีเซียมที่สำคัญต่อระบบประสาทดีต่อใจ ห่างไกลอัลไซเมอร์
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ทางเลือกสำหรับผู้ชายวัยทอง ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่เรื่องเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูก การเผาผลาญไขมัน และที่สำคัญคือการทำงานของสมอง เมื่อระดับเทสโทสเตอโรนลดลง ผู้ชายอาจประสบปัญหาเรื่องความจำเสื่อม สมาธิสั้น และความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ของวัยทอง
ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้ชายวัยทอง โดยรวมสารสกัดจากธรรมชาติ 7 ชนิดที่ทำงานร่วมกันในการสนับสนุนระบบฮอร์โมน เสริมสร้างพลังงาน และปกป้องสุขภาพสมอง
- สารสกัดจากโสมเกาหลี
โสมเกาหลีมีสารสำคัญชื่อ ginsenosides ที่ช่วยปรับสมดุลของระบบต่อมไร้ท่อ สนับสนุนการผลิตฮอร์โมนธรรมชาติและเพิ่มความต้านทานต่อความเครียดให้กับวัยทอง นอกจากนี้โสมยังมีคุณสมบัติในการปรับปรุงการไหลเวียนเลือด ซึ่งมีผลดีต่อการเลี้ยงสมองและการทำงานของระบบประสาท งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าโสมเกาหลีช่วยปรับปรุงความจำ เพิ่มสมาธิ และลดความล้าทั้งกายและใจ ห่างไกลอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากฟีนูกรีก
เป็นเมล็ดพืชที่มีสารสำคัญในการสนับสนุนการผลิตเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติของวัยทอง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบ และปรับปรุงการเผาผลาญไขมัน การมีระดับน้ำตาลในเลือดที่เสถียรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพสมอง เพราะสมองใช้กลูโคสเป็นเชื้อเพลิงหลัก และความผันผวนของน้ำตาลในเลือดอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของเซลล์สมองวัยทอง และกลายเป็นอัลไซเมอร์
- แอล อาร์จีนีน
ช่วยขยายหลอดเลือดและปรับปรุงการไหลเวียนเลือดให้แก่วัยทอง การมีเลือดไหลเวียนดีไปทั่วร่างกายรวมทั้งสมองจะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ อาร์จีนีนยังมีส่วนในการสร้างโปรตีนและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมทั้งการสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยแสดงว่าอาร์จีนีนอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง อัลไซเมอร์
- สารสกัดกระชายดำ
สมุนไพรไทยที่มีชื่อเสียงในการเสริมสร้างความแข็งแรงทางเพศและเพิ่มพลังงาน กระชายดำมีสารสำคัญหลายชนิด]ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ สารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายและสนับสนุนการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ การใช้กระชายดำในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนและปรับปรุงอาการต่างๆ ที่เกิดจากการลดลงของฮอร์โมนในผู้ชายวัยทอง
- ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลท
สังกะสีมีบทบาทสำคัญในการผลิตเทสโทสเตอโรนและการทำงานของระบบสืบพันธุ์ในผู้ชายวัยทอง นอกจากนี้สังกะสียังเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์มากกว่า 300 ชนิดในร่างกาย รวมทั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและระบบประสาท การขาดสังกะสีอาจส่งผลต่อความจำ การเรียนรู้ และอารมณ์ การได้รับสังกะสีในปริมาณที่เพียงพอจึงสำคัญต่อการรักษาสุขภาพสมองในวัยทองให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากแปะก๊วย
แปะก๊วยช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือดในสมอง เพิ่มความจำและสมาธิ ลดอาการวิงเวียนศีรษะ และอาจช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์สมองให้แก่วัยทอง สารสำคัญในแปะก๊วยยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหายที่เกิดจากความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากงาดำ
ให้สารเซซามินและลิกนานต่างๆ ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล งาดำยังเป็นแหล่งของแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามิน E ที่ดีต่อระบบประสาทและกระดูกของวัยทอง นอกจากนี้งาดำยังช่วยสนับสนุนการนอนหลับที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูพลังงานและการทำงานของสมองให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
การใช้ ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) อาหารเสริมสำหรับคุณผู้หญิงวัยทอง และ ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) สำหรับคุณผู้ชายวัยทอง ออยลี่ขอแนะนำให้วัยทองทุกท่านควรรับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสำคัญได้ดีที่สุด การรับประทานอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 3 – 6 เดือน จะช่วยให้วัยทองเห็นผลการปรับปรุงที่ชัดเจนมากขึ้น
สิ่งสำคัญคือ การเสริมสารอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ ยังคงต้องมาคู่กับการรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การนอนหลับเพียงพอ และการจัดการความเครียดเพื่อป้องกันอัลไซเมอร์
- การกระตุ้นสมองด้วยกิจกรรมต่างๆ
สมองเป็นเหมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งแข็งแรง การทำกิจกรรมที่ท้าทายสมองของวัยทองจะช่วยสร้างการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างเซลล์สมองและชะลอการเสื่อม การเกิดอัลไซเมอร์ต่อวัยทอง เช่น
- อ่านหนังสือ การเขียน การแก้ปริศนา การเล่นเกมส์ที่ใช้ความคิด เช่น ซูโดกุ เกมส์คำศัพท์ หมากรุก ล้วนช่วยกระตุ้นสมองวัยทองให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์
- เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ การเล่นดนตรี การวาดรูป การทำอาหาร ช่วยสร้างเส้นทางการเชื่อมต่อใหม่ในสมองของวัยทอง หลีกเลี่ยงอาการอัลไซเมอร์ได้
- ใช้มือที่ไม่ถนัด เช่น ถ้าเป็นคนถนัดขวาลองใช้มือซ้ายแปรงฟัน หรือเขียนชื่อ ช่วยกระตุ้นส่วนของสมองที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้กับวัยทองให้พ้นจากอัลไซเมอร์
- การเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินทางไปทำงานเส้นทางใหม่ ไปซื้อของที่ตลาดแห่งใหม่ ช่วยให้สมองต้องปรับตัวและทำงานมากขึ้น
- นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ 16:05/68
การนอนหลับมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพสมองของวัยทองมากๆ โดยในระหว่างที่วัยทองกำลังนอนหลับ สมองจะทำความสะอาดตัวเอง ขจัดสารพิษที่สะสมในระหว่างวัน รวมทั้งโปรตีนที่เป็นสาเหตุของอัลไซเมอร์
โดยแนะนำให้วัยทองควรนอนวันละ 7 – 9 ชั่วโมง และควรนอนในเวลาที่สม่ำเสมอ การนอนดึกหรือนอนไม่เพียงพอทำให้สารพิษสะสมในสมองและเพิ่มความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ และเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพของวัยทอง ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลัง 14.00 น. ไม่ใช้โทรศัพท์หรือดูทีวีก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และทำให้ห้องนอนมืดและเงียบ
- การจัดการความเครียด
ความเครียดเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของอัลไซเมอร์ในวัยทอง เพราะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ซึ่งทำลายเซลล์สมองโดยเฉพาะในบริเวณฮิปโปแคมปัสที่เป็นศูนย์กลางความจำ แนะนำให้วัยทองเริ่มทำ
- เริ่มทำสมาธิ การฝึกลมหายใจ การทำโยคะ การฟังเพลง หรือการทำกิจกรรมที่ชอบช่วยลดความเครียดให้แก่วัยทอง หาเวลาทำสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีอย่างน้อยวันละ 15 – 30 นาที
- เริ่มออกกำลังกายก็ช่วยลดความเครียดให้กับวัยทองได้ดี เพราะช่วยปล่อยฮอร์โมนความสุขและลดฮอร์โมนความเครียด ทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดอัลไซเมอร์
- การเข้าสังคมและมีสัมพันธภาพที่ดี
การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของวัยทองช่วยกระตุ้นสมองและลดความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ คนที่มีเพื่อนฝูงและเข้าสังคมมีความเสี่ยงต่ำกว่าคนที่อยู่คนเดียว การพูดคุย การเล่น การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นช่วยใช้สมองหลายส่วนพร้อมกัน ทั้งการฟัง การพูด การคิด และการตอบสนอง การมีงานอดิเรก การเข้าร่วมชมรม การทำงานอาสาสมัคร หรือการดูแลหลาน ล้วนเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพสมอง ช่วยให้วัยทองห่างไกลจากอัลไซเมอร์
…
เมื่อ “รู้ตัวไว” เท่าไหร่
ยิ่งทำให้การรักษา “อัลไซเมอร์” มีผลดีมากขึ้นเท่านั้น
…
การที่วัยทองรู้ว่าเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ออยลี่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการวินิจฉัยและรักษาอัลไซเมอร์ในระยะแรกจะให้ผลดีกว่าการรอจนกว่าอาการจะรุนแรง
สัญญาณเตือนที่วัยทองควรไปพบแพทย์ทันที รวมถึงการลืมที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน การสับสนเรื่องเวลาและสถานที่ การมีปัญหาในการใช้ภาษาหรือการเขียน การตัดสินใจผิดๆ บ่อยครั้ง และการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพอย่างรุนแรง ถ้าญาติสนิทหรือเพื่อนบอกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าเป็นห่วง วัยทองก็ไม่ควรปฏิเสธหรือมองข้าม เพราะบางครั้งคนรอบข้างอาจสังเกตเห็นก่อนตัวเราว่าเราอาจเข้าข่ายอัลไซเมอร์
แต่หากท่านใด…ที่รักษาอาการไม่ทันแล้ว ก็ควร
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
บ้านที่มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์ควรปรับแต่งให้เอื้อต่อการใช้ชีวิต ลดสิ่งกีดขวาง ติดราวจับในห้องน้ำ ปิดเตาแก๊สเมื่อไม่ใช้ เก็บของมีคมและยาให้พ้นมือเด็กและผู้ป่วย การติดป้ายบอกห้องต่างๆ การใช้แสงไฟที่สว่างเพียงพอ และการจัดของใช้ให้อยู่ในตำแหน่งเดิมช่วยให้ผู้ป่วยไม่สับสนและใช้ชีวิตได้อิสระมากขึ้น
- สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
การพูดคุยกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ต้องใช้ความอดทนและเทคนิคพิเศษ พูดช้าๆ ชัดเจน ใช้ประโยคสั้นๆ และรอให้เขาตอบก่อนพูดต่อ หลีกเลี่ยงการโต้แย้งหรือการแก้ไขเมื่อเขาพูดผิด แต่ให้พยายามเปลี่ยนเรื่องหรือเบี่ยงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่น การทำให้รู้สึกดีและมีความสุขสำคัญกว่าการถูกต้อง
- การดูแลผู้ดูแล
การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์เป็นงานที่หนักทั้งกายและใจ ผู้ดูแลต้องดูแลตัวเองด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยล้าหรือป่วย การหาเวลาพักผ่อน การขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อต้องการจะช่วยให้ผู้ดูแลมีความแข็งแรงในการดูแลผู้ป่วยต่อไป
- วางแผนระยะยาว
เพราะอัลไซเมอร์เป็นโรคที่เสื่อมไปเรื่อยๆ การวางแผนล่วงหน้าเรื่องการเงิน การรักษา และการดูแลจะช่วยลดความเครียดของครอบครัว ควรปรึกษาเรื่องกฎหมาย การทำพินัยกรรม การมอบอำนาจ และการเตรียมค่าใช้จ่ายในการรักษาตั้งแต่ผู้ป่วยยังมีสติและสามารถตัดสินใจได้
สรุป
“อัลไซเมอร์” เป็นโรคที่น่ากลัวสำหรับวัยทอง…แต่ไม่ใช่โรคที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ออยลี่มองว่าการเข้าใจอาการเริ่มต้น การป้องกันด้วยการดูแลสุขภาพ และการไปพบแพทย์เมื่อจำเป็น จะช่วยให้ตัววัยทองเองและครอบครัวเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายนี้ได้ดีกว่า
สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าปล่อยให้ความกลัวครอบงำจนไม่กล้าใช้ชีวิต แต่ให้ใช้ความรู้นี้เป็นแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพสมองและสร้างความทรงจำดีๆ ให้กับตัวเองและคนที่เรารัก การป้องกันดีกว่าการรักษา และการเริ่มต้นดูแลสุขภาพสมองตั้งแต่วันนี้จะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เราจะมอบให้กับตัวเองในอนาคต สุขภาพสมองที่ดีจะทำให้วัยทองสามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความสุขไปได้อีกยาวนาน ปราศจากอัลไซเมอร์
…ถ้าคุณผู้อ่านลืมไปว่า “จะต้องทานอะไรคู่กับมืออาหาร”
อยากให้คุณลองเลือก “ดีเน่ DNAe” ทานคู่กับมื้ออาหาร…