เมื่อคุณผู้อ่านก้าวเข้าสู่ “วัยทอง” หลายคนอาจพบว่าตัวเองเริ่มมีปัญหาเรื่องการกิน “ผัก” หรือบางท่านอาจจะไม่ชอบกินมาก่อนหน้านี้ เพราะบางคนอาจรู้สึกว่าผักมีรสชาติจืดชืด หรือเคี้ยวยาก บางคนอาจมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร หรือแม้แต่ความทรงจำในวัยเด็กที่ไม่ชอบผักก็ยังคงติดตัวมาจนถึงวัยนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว… การที่วัยทองไม่กินผักเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย และมีสาเหตุหลากหลาย ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของต่อมรับรส การลดลงของการหลั่งน้ำลาย ไปจนถึงปัญหาเรื่องฟัน หรือการเคี้ยวอาหาร แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เราไม่ควรปล่อยให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
จุดสำคัญที่คุณผู้อ่านต้องเข้าใจ คือ วัยทองไม่กินผักไม่ได้หมายความว่าจะต้องขาดสารอาหารที่จำเป็น เพียงแต่เราต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการนำสารอาหารเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผ่านการปรุงแต่งที่แตกต่าง การผสมผสานกับอาหารอื่น หรือการเลือกใช้ทางเลือกอื่นที่ให้ประโยชน์เทียบเท่า เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของเราก็เหมือนกับรถที่ใช้มานาน บางส่วนเริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม ระบบต่างๆ เริ่มช้าลง และต้องการการดูแลที่พิเศษกว่าเดิม นี่คือเหตุผลที่ผักจึงกลายเป็นเหมือน “ยาวิเศษ” ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทอง
“เพราะอายุที่มากขึ้น…
ร่างกายก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา”
ให้คุณผู้อ่านทุกคนลองนึกภาพว่า “ร่างกายของวัยทอง” ก็เปรียบเหมือนกับโรงงานใหญ่ที่ทำงานมา 60 – 70 ปี เครื่องจักรบางตัวเริ่มเก่า ท่อส่งสารอาหารอาจตีบแคบลง และระบบรักษาความปลอดภัยก็อาจไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม เช่นเดียวกับการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ของร่างกายวัยทองที่เริ่มลดลงประมาณ 10 – 30% เมื่อเทียบกับตอนหนุ่มสาว
นี่หมายความว่า…แม้วัยทองจะทานอาหารปริมาณเท่าเดิม แต่ร่างกายจะได้รับสารอาหารน้อยลง เหมือนกับการดื่มน้ำผ่านหลอดที่มีรูเล็กลง ระบบภูมิคุ้มกันก็เริ่มอ่อนแอลง ทำให้คุณผู้อ่านอาจป่วยง่ายขึ้นและหายช้าลง ส่วนการเผาผลาญก็ช้าลงเหมือนเครื่องยนต์ที่เปิดสวิตช์แล้วต้องอุ่นเครื่องนานกว่าจะทำงานได้เต็มที่ ทำให้ผักจึงเข้ามามีส่วนสำคัญมากขึ้น วัยทองไม่กินผักจึงต้องหาอย่างอื่นเสริมทดแทน
ผักคือ “เซรุ่มบำรุง” สำหรับวัยทอง
สำหรับคนวัยทอง “ผัก” เปรียบเสมือนเซรุ่มบำรุงที่มีส่วนผสมครบครัน เพราะมีทั้งวิตามิน เกลือแร่ เส้นใย และสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานร่วมกันเหมือนทีมแพทย์ที่คอยดูแลร่างกายเรา ลองมาดูกันว่าผักนั่นสำคัญมากแค่ไหน?
- วิตามินและเกลือแร่
วิตามินเค จากผักใบเขียวเข้ม เปรียบเป็นกาวพิเศษที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ปกติ และช่วยให้กระดูกแข็งแรง เมื่อคุณผู้อ่านอายุมากขึ้นและก้าวเข้าสู่วัยทอง…ร่างกายจะต้องการวิตามินเคมากขึ้น เนื่องจากการสร้างกระดูกใหม่ที่ทำได้ช้าลง และความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บจากการล้มก็สูงขึ้น วัยทองไม่กินผักอาจต้องระวังในส่วนนี้มากยิ่งขึ้น
วิตามินเอ ที่มีในผักสีส้มและใบเขียวเข้ม ทำหน้าที่เหมือนกับระบบกล้องวงจรปิดของร่างกาย ช่วยให้เรามองเห็นได้ดีในที่มืด และเป็นแผงป้องกันเชื้อโรคตัวแรกของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย การมีวิตามินเอเพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และรักษาสุขภาพผิวหนังของวัยทองให้แข็งแรง
วิตามินซี เป็นเหมือนนักรบต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งที่สุด และยังช่วยคอยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนัง หลอดเลือด และข้อต่อ เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในวัยทองจะทำได้ช้าลง การมีวิตามินซีที่เพียงพอจึงช่วยให้ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยเร็วเกินไป และหลอดเลือดยังคงยืดหยุ่นได้ดี
โฟเลต ที่มีในผักใบเขียว เป็นเหมือนผู้จัดการโรงงานผลิตเซลล์เลือดแดง ช่วยให้วัยทองไม่เป็นโรคโลหิตจาง และยังช่วยในการทำงานของระบบประสาทให้ทำงานได้ดีอีกด้วย
- เส้นใยจากผัก
เส้นใยจากผัก เป็นเหมือนระบบขนส่งมวลชนที่ดีในระบบย่อยอาหาร ช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ได้อย่างราบรื่น ป้องกันท้องผูก 06:03/68 ซึ่งเป็นปญหาที่พบบ่อยในวัยทองไม่กินผัก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง
นอกจากนี้ เส้นใย ยังทำหน้าที่ดูดซับน้ำตาลและไขมันในลำไส้ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ขึ้น – ลงรวดเร็ว และช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนวัยทองที่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวาน
- สารต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระ เปรียบเสมือนโจรที่บุกเข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกายเรา เมื่ออายุมากขึ้นและก้าวเข้าสู่วัยทอง โจรเหล่านี้จะมีมากขึ้น และระบบป้องกันตัวเองของร่างกายก็อ่อนแอลง สารต้านอนุมูลอิสระในผักจึงเป็นเหมือนยามรักษาการณ์ที่มาช่วยปกป้องเซลล์ของเรา วัยทองไม่กินผักจึงต้องมองหาตัวช่วยเสริมเพื่อทดแทนและต่อสู้กับอนมูลอิสระในร่างกาย
แคโรทีนอยด์ ที่ให้สีส้ม แดง และเหลืองในผัก ให้คุณประโยชน์ในการปกป้องดวงตาและผิวหนัง ฟลาโวนอยด์ ที่มีในผักใบเขียวและผลไม้สีเข้ม ช่วยปกป้องหัวใจและหลอดเลือด ส่วนโพลีฟีนอล ช่วยปกป้องสมองและระบบประสาท
ผลกระทบเมื่อขาดผักในวัยทอง
การที่วัยทองไม่กินผัก เปรียบได้เหมือนกับการปล่อยให้บ้านเก่าไม่มีการซ่อมแซม ตอนแรกอาจไม่เห็นปัญหา แต่เมื่อเวลาผ่านไปปัญหาต่างๆ จะเริ่มปรากฏ ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ไม่ดี เกิดอาการท้องผูก ท้องอืด และอาจมีปัญหาเรื่องริดสีดวงทวาร ผิวหนังจะเริ่มแห้งกร้าน หย่อนคล้อยเร็วขึ้น และบาดแผลหายช้า สายตาอาจเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะการมองเห็นในที่มืด
ท้ายที่สุด คือ ความเสี่ยงของโรคร้ายแรงต่างๆ จะเพิ่มขึ้น เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน 12:05/68 และโรคมะเร็งบางชนิด เพราะร่างกายขาดเครื่องมือในการป้องกันและซ่อมแซมตัวเองจากที่วัยทองไม่กินผัก
ทำอย่างไรเมื่อ “วัยทองไม่ชอบกินผัก” มาหาทางเลือกแทนผักที่วัยทองกินได้ง่ายกัน…
ถ้าคุณผู้อ่านหรือวัยทองที่รู้จักเป็น “วัยทองไม่กินผัก” คุณผู้อ่านก็ไม่จำเป็นต้องเครียดมากเกินไป เพราะมีหลายวิธีที่จะได้สารอาหารเหล่านี้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการหาทางเลือกอื่น การปรุงแต่งให้น่ากิน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมในกรณีจำเป็น
สิ่งสำคัญ คือ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะการดูแลสุขภาพในวัยทองไม่ใช่เรื่องที่รอได้ ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ยิ่งจะได้ผลดีเท่านั้น และจำไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำอย่างสม่ำเสมอ จะให้ผลที่ยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ที่ทำได้แค่ครั้งเดียว
มาดูทางเลือกที่จะช่วยให้วัยทองได้รับสารอาหารเหล่านั้น โดยไม่ต้องกินผักสดหรือผักต้มแบบที่ไม่ชอบกันเถอะ ว่ามีวิธีใดบ้าง? และแนะนำให้ทานชนิดใดทดแทน…
เห็ด
เห็ด ถือเป็นทางเลือกแรกที่ดีมากสำหรับวัยทองไม่กินผัก เพราะเห็ดมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม รสชาติที่หอมและเข้มข้น ซึ่งแตกต่างจากผักทั่วไป เห็ดอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามินบี เซเลเนียม และสารต้านอนุมูลอิสระ
สำหรับเห็ดที่แนะนำให้กับวัยทองไม่กินผัก เช่น เห็ดหอม เห็ดเอรินกิ เห็ดนางฟ้า และเห็ดชิตาเกะ ล้วนเป็นเห็ดที่มีประโยชน์สูงและปรุงง่าย สามารถนำมาผัด ต้ม หรือทำเป็นซุปได้ รสชาติของเห็ดจะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร และทำให้วัยทองสามารถรับประทานได้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการบังคับ
ถั่วต่างๆ
ถั่ว เป็นอีกทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับวัยทองไม่กินผัก มีประโยชน์ในการให้โปรตีนจากพืชและเส้นใยอาหาร 05:02/68 โดยเฉพาะถั่วลันเตา ถั่วเขียว ถั่วแดง และถั่วเหลือง ล้วนให้โปรตีนคุณภาพสูง พร้อมกับเส้นใย วิตามินบี และเกลือแร่สำคัญ
ซึ่งถั่วสามารถปรุงได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การต้มเป็นแกง การทำเป็นซุป หรือการปั่นเป็นน้ำถั่วเหลือง ซึ่งเป็นที่นิยมในคนไทย นอกจากนี้…ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ และเทมเป ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับวัยทองไม่กินผัก และหาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั้วไปได้ด้วย
ข้าวโพดหวานและฟักทอง
ข้าวโพดหวาน เป็นทางเลือกที่วัยทองส่วนใหญ่น่าจะชอบ เพราะมีรสชาติหวานธรรมชาติ และเคี้ยวง่าย ไม่เหมือนกับผักที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ข้าวโพดอุดมไปด้วยเส้นใย วิตามินซี และลูทีนที่ดีต่อสายตาของวัยทอง สามารถต้ม นึ่ง หรือปั่นเป็นน้ำได้
รวมถึง ฟักทอง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน เพราะมีรสชาติหวานเป็นธรรมชาติเป็นทุนเดิม เนื้อนุ่ม เคี้ยวง่าย และอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และเส้นใย ฟักทองสามารถปรุงได้หลายอย่าง ตั้งแต่การนึ่ง การทำแกง หรือการปั่นเป็นน้ำ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยสำหรับวัยทองไม่กินผัก
เผือกและมันเทศ
เผือกและมันเทศ แหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดี และมีเส้นใยสูง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ทั้งสองชนิดนี้มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม รสชาติหวานเล็กน้อย สามารถนำไปประกอบเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด อร่อยแน่นอน
นอกจากที่เราแนะนำให้กับวัยทองไม่กินผักได้ทราบตามข้างต้นแล้ว… “ผลไม้” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและน่าสนใจไม่แพ้กันสำหรับวัยทองไม่ชอบกินผัก เพราะส่วนใหญ่มีรสชาติหวาน เปรี้ยว และมีสารอาหารที่คล้ายคลึงกับผักหลายชนิด
ลองมาดูกันว่าจะมีผลไม้ชนิดใด? ที่เราอยากแนะนำให้คุณผู้อ่านได้ทราบกัน…
ผลไม้สีเข้มอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ผลไม้สีเข้มอย่างเบอร์รี่ต่างๆ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ อุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สารนี้ช่วยปกป้องสมองและระบบหัวใจ รวมทึงช่วยในการต่อต้านการอักเสบให้กับร่างกายของวัยทอง
องุ่นม่วงและเชอร์รี่ ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นกัน และยังมีสารเมลาโทนินที่ช่วยในเรื่องการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทองเรื่องของการนอนไม่หลับนั่นเอง
ผลไม้สีส้มที่ให้วิตามินเอ
มะละกอ มะม่วง และแคนตาลูป ผลไม้สีส้มเหล่านี้เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนที่ดีเยี่ยม สารนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ซึ่งสำคัญต่อการมองเห็น ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพผิวหนังของวัยทอง
ผลไม้เหล่านี้มีเนื้อนุ่ม หวาน และย่อยง่าย จึงเหมาะสำหรับวัยทองไม่กินผักและที่อาจมีปัญหาเรื่องการเคี้ยว โดยเฉพาะมะละกอที่ช่วยเรื่องของระบบขับถ่าย นอกจากนี้ยังสามารถปั่นเป็นน้ำหรือทำเป็นสมูทตี้ก็อร่อยด้วยได้เหมือนกัน
ผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง
กีวี่ ฝรั่ง และส้มต่างๆ เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีเยี่ยม วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยในการสร้างคอลลาเจน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับวัยทอง
โดยเฉพาะกีวี่มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 2 เท่า และยังมีเส้นใยสูงด้วย การกินกีวี่ 1 – 2 ลูกต่อวันจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพได้เป็นอย่างดี วัยทองไม่กินผักต้องลอง
กล้วยสำหรับพลังงานและโพแทสเซียม
กล้วย เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับวัยทองเป็นอย่างยิ่ง เพราะให้พลังงานที่ดี มีโพแทสเซียมที่ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และมีเส้นใยที่ช่วยในการย่อยอาหาร กล้วยยังมีวิตามินบี6 ที่สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท
ปรุงผักยังไง? ให้อร่อยและวัยทองกินได้
แม้ว่าจะมีทางเลือกอื่นๆ มากมาย แต่ถ้าคุณผู้อ่านหรือวัยทองไม่กินผักท่านใด สามารถทดลองหรือทำให้วัยทองกินผักได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก นี่ คือ เทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้ผักเป็นที่ยอมรับได้มากขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ จาก…
- การซ่อนผักในอาหารที่ชอบ
เทคนิคแรก คือ การซ่อนผักในอาหารที่วัยทองชอบอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น การผสมผักโขมหรือคะน้าที่สับละเอียดในไข่เจียว การใส่แครอทและหัวไผ่ที่สับเป็นชิ้นเล็กๆ ในข้าวผัด หรือการผสมผักต่างๆ ลงในลูกชิ้นที่ทำเอง การผสมลองสิ่งต่างๆ เหล่านี้ นอกจากจะได้รสสัมผัสที่แตกต่างจากการกินผักตรงๆ แล้ว ยังเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับวัยทองไม่กินผักด้วย
หรือจะลองเป็นการปั่นผักเป็นน้ำแล้วนำไปผสมในซุปหรือแกง ก็เป็นวิธีที่ดีอีกเช่นกัน ผักจะให้รสชาติและสารอาหาร แต่จะไม่มีเนื้อสัมผัสที่อาจไม่ชอบ
- การเปลี่ยนรูปแบบการปรุง
การเปลี่ยนวิธีการปรุงผักอาจทำให้วัยทองไม่กินผักยอมรับได้มากขึ้น การย่างผักแทนการต้มจะทำให้ได้รสชาติที่หอมและหวานขึ้น การทอดผักในแป้งบางๆ จะทำให้กรอบและอร่อย หรือการหมักผักก็จะได้รสชาติที่แปลกใหม่
ตลอดจนการใช้เครื่องปรุงและสมุนไพรต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มรสชาติได้ เช่น การใส่กระเทียมและหอมแดงในการผัดผัก การใช้พริกไทยและเกลือป่น การใส่น้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย หรือการโรยผ่านผงหม่าล่าก็ทำให้วัยทองไม่กินผักอร่อยได้มากยิ่งขึ้น
- การทำผักให้นุ่มขึ้น
สำหรับวัยทองที่มีปัญหาเรื่องการเคี้ยว การทำผักให้นุ่มขึ้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ การต้นผักให้นานขึ้น การใช้หม้อความดันเพื่อทำให้ผักนุ่ม หรือการสับผักให้ละเอียดก่อนปรุง จะช่วยให้กินง่ายขึ้น ตลอดตนการปั่นผักเป็นเพสต์แล้วนำไปปรุงกับอาหารอื่น ก็เป็นวิธีที่ให้ได้ทั้งสารอาหารและความง่ายในการรับประทานสำหรับวัยทอง
ซุปและน้ำผักปั่น เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัยทองไม่กินผัก เพราะสามารถใส่ผักหลายชนิดรวมกัน มีรสชาติที่ดี และกินง่าย…
- ซุปผักรวมที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
ซุปผักรวมที่ใส่หัวไผ่ แครอท ผักกาดขาว เซเลอรี่ และมะเขือเทศ จะให้สารอาหารครบถ้วน รสชาติหวานเป็นธรรมชาติ และมีเส้นใยที่ช่วยการย่อย การเติมเนื้อสัตว์หรือเต้าหู้จะทำให้ได้โปรตีนเพิ่มขึ้น
การปรุงซุปให้มีรสชาติเข้มข้น ด้วยการใส่เครื่องปรุงธรรมชาติ เช่น กระดูกหมูหรือไก่ จะทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและสารอาหารเพิ่มเติม
- น้ำผักปั่นสีเขียว
น้ำผักปั่นสีเขียวที่ผสมผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า หรือผักกาด กับผลไม้หวาน เช่น แอปเปิ้ล กล้วย หรือมะละกอ จะได้เครื่องดื่มที่มีสารอาหารสูงแต่มีรสชาติที่รับได้ เชื่อว่าวัยทองไม่กินผักต้องทานได้แน่นอน
การเติมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว หรือขิงเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์ การดื่มน้ำผักปั่นเป็นประจำจะช่วยให้ได้วิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยอย่างเพียงพอ
- น้ำซุปกระดูกผสมผัก
น้ำซุปกระดูกที่ต้มนานๆ แล้วผสมผักต่างๆ จะได้สารอาหารจากกระดูก เช่น คอลลาเจน แคลเซียม และฟอสฟอรัส รวมถึงสารอาหารจากผัก การดื่มน้ำซุปแบบนี้เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและข้อให้กับวัยทอง
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยทดแทน
นอกจากอาหารทางเลือกทดแทนวัยทองไม่กินผักแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น 05:04/68 โดยเฉพาะสำหรับวัยทองที่มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารหลากหลาย โดยเราขอแนะนำเป็น…
- วิตามินรวมสำหรับวัยทอง
วิตามินรวม ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับวัยทองจะมีสัดส่วนของวิตามินและเกลือแร่ที่เหมาะสมกับความต้องการในวัยนี้ โดยเฉพาะวิตามินบี12 วิตามินดี แคลเซียม และเหล็ก ที่มักขาดในวัยทอง การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและทานได้ประโยชน์ แนะนำให้วัยทองควรดูจากองค์ประกอบ ความปลอดภัย และการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้
- ผงผักอัดเม็ดหรือผงผักผสม
ผงผัก ที่ทำจากผักแท้ที่ผ่านการอบแห้งจะเก็บสารอาหารไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถผสมในน้ำ น้ำผลไม้ หรือโยเกิร์ตได้ เป็นวิธีที่ง่ายในการได้รับสารอาหารจากผักสำหรับวัยทองไม่กินผัก
อย่างไรก็ตาม…ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถทดแทนผักสดได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องเส้นใยและการเคี้ยว ซึ่งมีประโยชน์ต่อการย่อยอาหารและสุขภาพช่องปาก
- น้ำมันปลาและโอเมก้า 3
น้ำมันปลา ที่มีโอเมก้า 3 จะช่วยทดแทนสารอาหารที่ได้จากผักใบเขียวบางส่วน โดยเฉพาะในเรื่องการต่อต้านการอักเสบและสุขภาพหัวใจ สำหรับวัยทองที่ไม่กินปลาหรือวัยทองไม่กินผักเขียวเพียงพอ การเสริมโอเมก้า 3 อาจเป็นประโยชน์ให้กับร่างกายได้
- โปรไบโอติกและพรีไบโอติก
เนื่องจากผักเป็นแหล่งพรีไบโอติกธรรมชาติที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้ การที่วัยทองไม่กินผักอาจส่งผลต่อสุขภาพระบบย่อย การเสริมโปรไบโอติกและพรีไบโอติกจึงอาจช่วยชดเชยได้ส่วนหนึ่ง ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง
นอกจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มีแนะนำให้ด้านบนไปแล้ว เรายังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอีก 1 ตัว ที่จะเก็บไว้คนเดียวก็ทำไม่ได้ เพราะผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เขาบอกว่า “ผลิตมาเพื่อวัยทองทุกท่านโดยเฉพาะ” เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นในวัยทอง ไม่ว่าจะเป็นอาการร้อนวูบวาบ อาการนอนไม่หลับ อาการเหงื่อออกมากตามมือ อารมณ์ที่แปรปรวน อาหารเสริมชนิดนี้ยังเป็นสูตรที่คิดค้นจากคุณหมอและเภสัชกรคนไทย มีการจดเลขและลงทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้อง พร้อมกับกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานฮาลาลอีกด้วย และเรากำลังพูดถึง…
ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ตัวช่วยดีๆ สำหรับผู้หญิงวัยทองไม่กินผัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป การที่วัยทองไม่กินผักไม่ใช่เรื่องแปลกและปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น การรับรสก็เปลี่ยนไป ฟันก็อาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม แต่ที่น่ากังวล คือ ผักเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะในวัยทอง เพราะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรค และชะลอการเสื่อมสภาพ ถ้าขาดไปแล้วก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ดีเน่ ฟลาโวพลัส จึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลที่รวบรวมสารสกัดจากธรรมชาติ 6 ชนิด มาไว้ในแคปซูลเดียว ทานวันละ 1 แคปซูล ก็จะได้สารอาหารจากธรรมชาติหลายๆ ชนิดเลยทีเดียว
1. สารสกัดจากถั่วเหลือง
ถั่วเหลือง มีสารไอโซฟลาโวน ที่ช่วยสนับสนุนสุขภาพฮอร์โมนโดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทอง และยังช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วย ที่สำคัญคือสารสกัดที่ใช้นำเข้าจากเสปน ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพสูง
2. สารสกัดจากตังกุย
ตังกุย สมุนไพรจีนที่มีชื่อเสียงมาช้านาน ตัวนี้เป็นเหมือนผู้ช่วยดีๆ สำหรับผู้หญิงวัยทอง เพราะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ลดอาการร้อนวูบวาบ และช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น ในแง่ของการทดแทนสารอาหารจากผัก ตังกุยก็มีวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราต้องการให้วัยทองได้รับ
3. สารสกัดจากแปะก๊วย
ใครที่กังวลเรื่องความจำเริ่มไม่ดี หรือรู้สึกว่าสมองทำงานช้าลง แปะก๊วยจะเป็นเพื่อนที่ดีมาก สารสกัดจากแปะก๊วยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้ความจำดีขึ้น สมาธิดีขึ้น นอกจากนี้…แปะก๊วยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากความเสียหาย เป็นการช่วยชะลอการเสื่อมของสมองได้ในระดับหนึ่ง
4. สารสกัดจากงาดำ
งาดำเป็นเหมือนซูเปอร์ฟูดของคนเอเชียเรานะ มีแคลเซียมสูงมาก ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับวัยทอง นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี เซเซมิน และลิกนันที่ช่วยบำรุงผิวผมให้เงางาม สำหรับคนที่ไม่ชอบกินผักใบเขียวที่มีแคลเซียมสูง งาดำจะช่วยเติมเต็มความต้องการแคลเซียมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีเส้นใยและโปรตีนคุณภาพดีด้วย
5. ออร์แกนิค แครนเบอร์รี่
แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่เราพูดถึงในกลุ่มเบอร์รี่ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแอนโทไซยานินที่ช่วยป้องกันระบบหัวใจและสมอง นอกจากนี้…แครนเบอร์รี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องการช่วยดูแลระบบทางเดินปัสสาวะ ป้องกันการติดเชื้อ
6. อินูลิน พรีไบโอติก
ตัวนี้เป็นเหมือนอาหารสำหรับแบคทีเรียดีในลำไส้ อินูลินเป็นเส้นใยชนิดพิเศษที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียดี ทำให้ท้องทำงานได้ดี ย่อยอาหารได้ดี และดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น สำหรับวัยทองที่มักมีปัญหาท้องผูก หรือย่อยอาหารไม่ค่อยได้ อินูลินจะช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารจากอาหารอื่นๆ ก็ดีขึ้นตามไปด้วย
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
และ ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ชายวัยทองไม่กินผักที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุม เมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากอายุ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่เกิดขึ้นมักจะเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เริ่มลดลงเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับผู้ชายทุกคน
ดีเน่ แอนโดรพลัส เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ชายวัยทอง โดยเก็บสารสกัดจากธรรมชาติ 7 ชนิดที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงไว้ในแคปซูลเดียว…
1. สารสกัดจากโสมเกาหลี
โสมเกาหลี มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่ง และช่วยให้ร่างกายต้านทานต่อความเครียดได้ดีขึ้น ที่น่าสนใจคือ โสมเกาหลีไม่ได้แค่ช่วยเรื่องความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจด้วย ทำให้ผู้ชายวัยทองรู้สึกมีพลังและมั่นใจมากขึ้น
2. สารสกัดจากฟีนูกรีก
ฟีนูกรีก เป็นพืชที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่จริงๆ แล้วเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ชาย โดยเฉพาะในเรื่องของการช่วยรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ชายวัยทองที่เริ่มมีฮอร์โมนลดลงตามธรรมชาติ นอกจากนี้… ฟีนูกรีกยังมีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทอง และยังช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อด้วย
3. แอล อาร์จีนีน
แอล อาร์จีนีน เป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญมากในการผลิตไนตริกออกไซด์ในร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้…ยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายวัยทองต้องการเป็นพิเศษ
4. สารสกัดกระชายดำ
กระชายดำ สมุนไพรไทยที่มีคุณค่าทางยาสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ชาย ในการแพทย์แผนไทย กระชายดำถือเป็นยาบำรุงกำลังที่สำคัญ ช่วยเพิ่มพลังและความอดทน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผู้ชายวัยทองรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
5. ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลท
ซิงค์ เป็นแร่ธาตุที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ชาย เพราะมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน รวมถึงการทำงานของระบบสืบพันธุ์ ปัญหา คือ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะดูดซึมซิงค์ได้น้อยลง ทำให้อาจจะขาดซิงค์โดยไม่รู้ตัว รูปแบบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นี้เป็น Zinc Amino Acid Chelate ซึ่งเป็นรูปแบบที่ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด เพราะซิงค์ถูกผูกกับกรดอะมิโนทำให้ผ่านเข้าสู่ระบบย่อยอาหารได้โดยไม่ถูกรบกวนจากสารอื่นๆ
6. สารสกัดจากแปะก๊วย
แปะก๊วย เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงในเรื่องการช่วยเสริมสร้างความจำและสมาธิ ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ชายวัยทองหลายคนเริ่มประสบ คุณสมบัติหลักของแปะก๊วยคือการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ
7. สารสกัดจากงาดำ
งาดำ เป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ฟูดที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ชายวัยทอง โดยเฉพาะในเรื่องของการบำรุงกระดูก ผิวผม และระบบไหลเวียนโลหิต งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินอี ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่ผู้ชายวัยทองต้องการเป็นพิเศษ
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) และ ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับวัยทองไม่กินผัก เพราะได้รวบรวมสารอาหารที่จำเป็นจากธรรมชาติหลายชนิดไว้ในแคปซูลเดียว ใช้ง่าย สะดวก และให้ประโยชน์ครอบคลุมทั้งการเสริมภูมิคุ้มกัน การดูแลสมอง การบำรุงกระดูก และการปรับปรุงระบบย่อยอาหาร
แต่อย่าลืมว่าการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด คือ การรับประทานอาหารที่หลากหลาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงตัวช่วยที่ดีในการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป ขอฝากไว้เป็นอีกทางเลือกเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในวัยทองอย่างมีคุณภาพและความสุข
“เขาว่ากันว่า… อาหารที่อร่อย สามารถเปิดใจให้คนได้เข้ามาลิ้มลอง”
และแน่นอนเช่นกันว่าการทำให้วัยทองเปิดใจและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากวัยทองไม่กินผัก เป็นเริ่มทานผักได้ทีละนิดๆ ผ่านวางแผนเมนูอาหารที่ให้สารอาหารครบถ้วนโดยไม่ต้องพึ่งผักเป็นหลัก เป็นสิ่งที่ทำได้และมีประโยชน์
ลองมาดูกันว่า… เราได้จัดเมนู 1 วันมาแนะนำให้วัยทองไม่กินผักกันบ้าง เผื่อเป็นทางเลือกให้คุณอยากลิ้มลองรสชาติมากขึ้น ผ่านของทดแทนผักในรูปแบบต่างๆ
เมนูอาหารเช้า
- ข้าวต้มใส่เห็ดและไข่ ข้าวต้มที่ผสมเห็ดหอมสับ ไข่ไก่ และโรยหน้าด้วยผักชีสับ จะให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามินบี จากเห็ด รสชาติหอมหวานและอ่อนโยนต่อกระเพาะวัยทอง
- โอ๊ตมีลผสมผลไม้ โอ๊ตมีลที่ปรุงด้วยนมสด ผสมกล้วยหั่น เบอร์รี่ และถั่วอัลมอนด์ จะให้เส้นใย โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ รสชาติหวานหอมและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ทดแทนผัก
- ไข่ตุ๋นใส่เต้าหู้ ไข่ไก่ตุ๋นที่ผสมเต้าหู้นุ่ม โรยด้วยงาขาวและหอมเจียว จะให้โปรตีนคุณภาพสูง แคลเซียม และรสชาติที่หอมหวน วัยทองไม่กินผักชอบเมนูนี้ทุกคน
เมนูอาหารกลางวัน
- ข้าวผัดใส่เห็ดและกุ้ง ข้าวผัดที่ใส่เห็ดนางฟ้าสับ กุ้งสด และไข่ไก่ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและพริกไทย จะให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และรสชาติที่เข้มข้น
- ต้มข่าไก่ใส่ฟักทอง ต้มข่าไก่ที่ใส่ฟักทองหั่นชิ้น เห็ดฟาง และใบมะกรูด จะให้โปรตีน เบต้าแคโรทีน และรสชาติที่หอมเผ็ดอ่อนๆ ดีต่อวัยทองไม่กินผัก
- ปลาทับทิมนึ่งมะนาว ปลาทับทิมนึ่งที่ราดด้วยน้ำจิ้มมะนาว กิงขิง และพริก เสิร์ฟกับข้าวสวย จะให้โปรตีนคุณภาพสูง โอเมก้า 3 และวิตามินซี
เมนูอาหารเย็น
- แกงเผ็ดเนื้อใส่มันเทศ แกงเผ็ดเนื้อที่ใส่มันเทศหั่นชิ้น ถั่วฝักยาว และใบโหระพา จะให้โปรตีน เบต้าแคโรทีน และเส้นใย รสชาติเผ็ดหอมแบบไทยแท้
- ลาบปลาใส่ข้าวโพด ลาบปลาที่ผสมเมล็ดข้าวโพดหวาน ขิงสับ และมะนาว จะให้โปรตีน เส้นใย และรสชาติเปรี้ยวเผ็ดที่กระตุ้นการทานอาหาร
- ซุปฟักทองใส่หมูสับ ซุปฟักทองที่ปั่นละเอียด ใส่หมูสับและเต้าหู้เหลือง จะให้วิตามินเอ โปรตีน และเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่น
นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ทดแทนจากสารอาหารที่วัยทองไม่กินผัก ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำมากกว่าปกติ โดยเฉพาะการตรวจระดับวิตามินต่างๆ ในเลือด เช่น วิตามินบี12 โฟเลต วิตามินดี และเหล็ก ซึ่งอาจมีระดับต่ำกว่าปกติ การตรวจสุขภาพควรรวมถึงการตรวจระดับคอเลสเตอรอล น้ำตาลในเลือด และความดันโลหิต เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ
นอกจากนี้…การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม และชดเชยผลกระทบจากการขาดสารอาหารบางชนิด การเดิน การว่ายน้ำ หรือการทำโยคะ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบหัวใจ เพราะวัยทองที่ไม่กินผักอาจมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกินหรือขาดสารอาหาร การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ และเพิ่มคุณภาพชีวิต
การควบคุมน้ำหนักควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย ไม่ควรลดอาหารอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ขาดสารอาหารเพิ่มขึ้น
สรุป
“วัยทองไม่กินผัก” ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่ต้องใช้ความเข้าใจ ความอดทน และการหาทางเลือกที่เหมาะสม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดีในวัยทอง ทางเลือกต่างๆ ที่กล่าวมาตั้งแต่ผลไม้ เห็ด ถั่วต่างๆ ไปจนถึงการปรุงผักในรูปแบบใหม่ ล้วนเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้วัยทองได้รับสารอาหารที่จำเป็น โดยไม่ต้องบังคับให้กินผักสดแบบที่ไม่ชอบ
การสร้างนิสัยการกินที่ดีต้องใช้เวลา และควรเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ การให้กำลังใจและการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จ เราสามารถช่วยให้คนวัยทองมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขในการรับประทานอาหาร แม้จะไม่ชอบกินผักก็ตาม
และอย่าลืม… หากมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ให้ดีเน่ DANe ดูแลคุณ…