สงกรานต์กับการเดินทางของคนวัยทอง

เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่คนไทยหลายครอบครัวต่างรอคอย โดยเฉพาะวัยทองที่ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้กลับบ้านเกิด พบปะญาติผู้ใหญ่ ลูกหลาน เด็กเล็ก และร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย แต่สำหรับเรื่องการขับรถเดินทางกลับบ้านในระยะทางไกลๆ ของวัยทอง อาจเป็นความท้าทายที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาความตื่นตัวและสมาธิในการขับขี่

ปัญหาสำคัญที่คนวัยทองมักเผชิญระหว่างเดินทางขับรถกลับบ้านช่วงสงกรานต์ คือ อาการง่วงนอน หรือความเหนื่อยล้าที่มาเร็วกว่าวัยหนุ่มสาว ร่างกายที่เริ่มเปลี่ยนแปลงตามวัยทำให้ต้องใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมก่อนและระหว่างการเดินทาง จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การขับรถกลับบ้านในช่วงสงกรานต์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีความสุข

ความท้าทายของคนวัยทองกับการขับรถทางไกล

อย่างที่คุณผู้อ่านหลายท่านทราบกันดีว่าเมื่อเข้าสู่วัยทองแล้ว ร่างกายมักจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่อาจส่งผลต่อการขับขี่ยานพาหนะในระยะเวลานาน อาทิ

  1. ความสามารถในการตอบสนองที่ช้าลง วัยทองมีปฏิกิริยาการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ อาจช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจมากกว่าเดิม
  2. การมองเห็นที่เปลี่ยนไป วัยทองจะมีสายตาที่อาจเริ่มเสื่อมถอย โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือสภาพแสงที่ไม่เอื้ออำนวย
  3. ความเหนื่อยล้าที่มาเร็วขึ้น ร่างกายของวัยทองอาจเหนื่อยง่ายกว่าเมื่อครั้งยังหนุ่มสาว ทำให้ต้องพักบ่อยขึ้นในระหว่างขับรถ
  4. การเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญ เมตาบอลิซึมที่ช้าลงของวัยทองส่งผลให้การย่อยอาหารและการเผาผลาญพลังงานแตกต่างไปจากเดิม
  5. ระบบฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ทั้งผู้ชายและผู้หญิงวัยทองมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่อาจส่งผลต่อการนอนหลับ อารมณ์ และระดับพลังงานในร่างกาย

ความเสี่ยงจากการขับรถทางไกลของคนวัยทอง

  1. อาการหลับใน การอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอของวัยทองก่อนเดินทาง ประกอบกับการนั่งขับรถเป็นเวลานานอาจนำไปสู่อาการหลับในได้ง่าย
  2. ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ การนั่งในท่าเดียวนานๆ ของวัยทอง อาจทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า ส่งผลต่อการควบคุมพวงมาลัยและเบรก
  3. ปัญหาสุขภาพที่มีอยู่เดิม โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ อาจเกิดอาการกำเริบระหว่างการเดินทางได้ หากวัยทองไม่ดูแลตัวเองให้ดี
  4. ผลข้างเคียงจากยา ยาบางชนิดที่คนวัยทองรับประทาน อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ง่วงนอนหรือมึนงง เพราะฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยง
  5. ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ การไม่ได้รับประทานอาหารตามเวลาอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด หรือวิงเวียนได้

ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเพื่อรักษาความตื่นตัวระหว่างขับรถมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทอง เพราะอาหารไม่เพียงแต่ให้พลังงาน แต่ยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เพื่อป้องกันอาการง่วงนอนและรักษาสมาธิในการขับขี่ได้ดีอีกด้วย

หลักการเลือกอาหารสำหรับคนวัยทอง

ก่อนที่เราจะพูดถึงอาหารที่ดีและเหมาะสมเฉพาะสำหรับการขับรถ เราอยากพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจก่อนว่าร่างกายของคนวัยทองต้องการสารอาหารอะไรเป็นพิเศษ

  1. โปรตีนคุณภาพดี เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของวัยทองก็ต้องการโปรตีนมากขึ้น และเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ แนะนำให้วัยทองรับประทานโปรตีนประมาณ 1.0 – 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
  2. แคลเซียมและวิตามินดี เพื่อรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทองที่ไม่มีการผลิตแล้ว
  3. ใยอาหาร ช่วยในระบบย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีต่อวัยทอง
  4. สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านความเสื่อมของเซลล์และชะลอวัยในวัยทอง
  5. โอเมก้า-3 สำคัญต่อการทำงานของสมองและระบบหัวใจและหลอดเลือด
  6. วิตามินบีรวม ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและการทำงานของระบบประสาท

หลักการเลือกอาหารเพื่อความตื่นตัวระหว่างขับรถ

สำหรับการขับรถทางไกลในช่วงสงกรานต์ นอกจากการเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว วัยทองยังควรต้องคำนึงถึงหลักการเหล่านี้ด้วย

  1. หลีกเลี่ยงอาหารหนักย่อยยาก อาหารที่มีไขมันสูงหรือมีการปรุงแต่งมาก จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยมาก ส่งผลให้เกิดอาการง่วงนอนระหว่างขับรถกลับสงกรานต์ได้
  2. ทานอาหารในปริมาณพอเหมาะ การทานอาหารมากเกินไปในมื้อเดียว จะทำให้เลือดไปเลี้ยงระบบย่อยอาหารมากขึ้น ลดการไหลเวียนของเลือดไปสู่สมอง
  3. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สม่ำเสมอ เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำหรือปานกลาง เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การขาดน้ำแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลให้เกิดอาการง่วงและขาดสมาธิได้
  5. วางแผนมื้ออาหารให้เหมาะสม ทานอาหารมื้อเบาๆ ทุก 2 – 3 ชั่วโมง ดีกว่าการทานมื้อใหญ่เพียงมื้อเดียว เพราะจะช่วยท้องทำงานได้ดียิ่งขึ้น

อาหารเพิ่มความตื่นตัวสำหรับวัยทองระหว่างขับรถ

อาหารเพิ่มความตื่นตัวสำหรับวัยทองในระหว่างเดินทางกลับบ้านช่วงกรานต์ด้วยการขับรถจะมีอาหารประเภทใด และเมนูใดบ้าง มาดูกัน…

อาหารประเภทโปรตีนที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัว

โปรตีน เป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายของวัยทองตื่นตัวได้ดีในระหว่างเดินทาง เนื่องจากช่วยกระตุ้นการผลิตโดปามีนและนอร์อิพิเนฟริน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยในการตื่นตัวและการมีสมาธิ อาหารประเภทโปรตีนที่แนะนำสำหรับคนวัยทองระหว่างขับรถ ได้แก่…

  1. ไข่ต้ม อาหารพกพาง่ายที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง วิตามินบี และโคลีน ซึ่งช่วยในการทำงานของสมองวัยทองได้เป็นอย่างดี
  2. ปลาทูน่ากระป๋อง มีโปรตีนสูง โอเมก้า – 3 และเป็นแหล่งของวิตามินบี12 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทได้ดี 
  3. เต้าหู้ ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ มีโปรตีนสูงและไอโซฟลาโวนที่มีประโยชน์ต่อคนวัยทอง
  4. นมและผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ตกรีก ชีสไขมันต่ำ หรือนมไขมันต่ำ เป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่ดี
  5. เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เนื้ออกไก่หรือเนื้อปลาย่าง ช่วยให้พลังงานต่อเนื่องโดยไม่ทำให้ง่วงนอน
  6. ถั่วและเมล็ดพืช อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดฟักทอง มีทั้งโปรตีน ไขมันดี และแร่ธาตุที่จำเป็น

คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ให้พลังงานยาวนานมากขึ้น

คุณผู้อ่านต้องอย่าเข้าใจผิดว่าคาร์โบไฮเดรตทำให้ง่วงนอนเสมอไป เพราะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะปล่อยพลังงานอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ช่วยให้คุณผู้อ่านที่เป็นวัยทองมีพลังงานต่อเนื่องระหว่างการขับรถเดินทางกลับบ้านช่วงกรานต์แน่นอน

  1. ข้าวกล้อง อุดมไปด้วยวิตามินบี ช่วยในการเผาผลาญพลังงานและการทำงานของระบบประสาท
  2. ขนมปังโฮลวีต ทำเป็นแซนด์วิชใส่ไข่หรือไก่เพื่อเพิ่มโปรตีน
  3. ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ให้พลังงานต่อเนื่องและมีใยอาหารสูง
  4. มันเทศ อุดมไปด้วยวิตามินเอ ใยอาหาร และให้พลังงานยาวนาน
  5. ถั่วต่างๆ ถั่วเลนทิล ถั่วดำ ถั่วแดง มีทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

ผลไม้และผักที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

ผลไม้และผักไม่เพียงแต่ให้วิตามินและเกลือแร่ แต่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการทำงานของสมองให้กับวัยทอง ยิ่งผลไม้เปรี้ยวช่วยให้ตาตื่นตลอดการขับ

  1. ผลเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยปรับปรุงความจำ และผลไม้รสเปรี้ยวช่วยให้ตื่นตัวได้ดี
  2. ส้ม วิตามินซีสูง กลิ่นสดชื่นช่วยให้ตื่นตัว และน้ำตาลธรรมชาติให้พลังงานทันที
  3. กล้วย แหล่งของโพแทสเซียมและวิตามินบี 6 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  4. แอปเปิ้ล ให้พลังงานระยะยาวและมีสารเคอร์ซิทินที่ช่วยให้สมองตื่นตัว
  5. อะโวคาโด มีไขมันดีที่ช่วยในการทำงานของสมองให้วัยทอง
  6. ผักใบเขียว ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง อุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียจากภาวะโลหิตจางได้

เครื่องดื่มที่ช่วยให้ตื่นตัวสำหรับคนวัยทอง

เครื่องดื่มน้ำต่างๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาความตื่นตัวระหว่างการขับรถให้กับวัยทอ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกชนิด มาดูเลือกให้เหมาะสมกับวัยทองกัน

  1. กาแฟในปริมาณพอเหมาะ คาเฟอีนช่วยกระตุ้นระบบประสาท แต่คนวัยทองควรจำกัดปริมาณไม่เกิน 200 – 300 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 2 – 3 แก้ว)
  2. ชาเขียว มีคาเฟอีนในปริมาณที่น้อยกว่ากาแฟ พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์
  3. ชาสมุนไพร เช่น ชาขิง ชาตะไคร้ ช่วยให้วัยทองรู้สึกสดชื่นระหว่างเดินทางโดยไม่มีคาเฟอีน
  4. น้ำผลไม้ไม่หวานจัด น้ำส้มคั้น น้ำมะนาว ให้วิตามินและความสดชื่น
  5. น้ำเปล่า วัยทองควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 05:03/68 เพื่อช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้าและง่วงนอนที่เกิดจากการขาดน้ำ
  6. น้ำมะพร้าว ให้อิเล็กโทรไลต์ธรรมชาติ ช่วยในการเพิ่มพลังงานโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาล

สมุนไพรไทยที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัว

คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า…ประเทศไทยมีสมุนไพรหลายชนิดที่มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายตื่นตัว เหมาะสำหรับคนวัยทองเป็นอย่างดีที่ต้องขับรถเดินทางระยะไกลอย่างในช่วงเทศกาลสงกรานต์

  1. ขิง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้รู้สึกสดชื่น
  2. กระชาย ช่วยบำรุงกำลัง เพิ่มความตื่นตัว
  3. ตะไคร้ มีกลิ่นหอมช่วยให้รู้สึกสดชื่น ลดความเครียด
  4. กระเทียม ช่วยในการไหลเวียนของเลือด
  5. บัวบก ช่วยในการทำงานของสมองและความจำ
  6. มะขามป้อม อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยลดความเหนื่อยล้า

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนและระหว่างการขับรถ

การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้กับวัยทอง แต่ยังเป็นการหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทที่อาจทำให้การเดินทางสะดุดได้อีกด้วย 

อาหารที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน

อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและดัชนีน้ำตาลสูง

อาหารประเภทนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และตกลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้วัยทองเกิดอาการง่วงนอนและขาดสมาธิในระหว่างขับรถ

  1. ขนมหวานและเบเกอรี่ ขนมเค้ก โดนัท คุกกี้ หรือขนมหวานไทยที่มีน้ำตาลสูง ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อการขับขี่
  2. ขนมขบเคี้ยวที่มีแป้งขัดขาว มันฝรั่งทอด ขนมกรุบกรอบ หรือแครกเกอร์ นอกจากมีคาร์โบไฮเดรตที่ถูกดูดซึมเร็วแล้ว ยังมักมีไขมันทรานส์และโซเดียมสูง
  3. น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงทำให้เกิดการพุ่งขึ้นและตกลงของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการง่วงนอน
  4. ข้าวขัดขาว ข้าวขาวหรือผลิตภัณฑ์จากแป้งขัดขาวย่อยง่ายและถูกดูดซึมเร็ว ทำให้เกิดอาการง่วงหลังอาหาร

อาหารที่มีไขมันสูง

อาหารที่มีไขมันสูงใช้เวลาในการย่อยนาน ยิ่งเฉพาะร่างกายของวัยทองที่ไม่เหมือนกับตอนที่ยังหนุ่มสาว จึงอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงระบบทางเดินอาหารมากกว่าสมอง ส่งผลให้เกิดอาการง่วงซึมและขาดความตื่นตัวระหว่างเดินทางช่วงสงกรานต์ได้

  1. อาหารทอด ไก่ทอด กล้วยแขก ทอดมัน หรืออาหารที่ผ่านการทอดน้ำมันท่วม นอกจากย่อยยากแล้วยังทำให้รู้สึกอึดอัดท้อง
  2. อาหารที่มีกะทิเข้มข้น แกงกะทิ หรือขนมหวานที่ใช้กะทิเข้มข้น มีไขมันสูงและย่อยยาก
  3. เนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อหมูสามชั้น เนื้อวัวติดมัน หรือหนังไก่ ใช้เวลาย่อยนานและทำให้รู้สึกง่วงซึม
  4. ชีสเข้มข้นหรืออาหารที่มีชีสปริมาณมาก นอกจากมีไขมันสูงแล้ว ยังมีโปรตีนที่เรียกว่าเคซีน ซึ่งย่อยยากและต้องใช้พลังงานในการย่อยมาก

อาหารที่อาจรบกวนระบบทางเดินอาหาร

อาหารที่ทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือจุกเสียดระหว่างขับรถ เป็นสิ่งที่วัยทองควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะอาจทำให้ขาดสมาธิและเป็นอันตรายต่อการขับขี่

  1. อาหารรสจัด อาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรือมันจัด อาจก่อให้วัยทองเกิดอาการแสบท้องหรือกรดไหลย้อน โดยเฉพาะในคนวัยทองที่อาจมีปัญหาระบบทางเดินอาหารอยู่แล้ว และอาจก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ 04:03/68
  2. อาหารที่ทำให้ท้องอืดแน่น ถั่วบางชนิด กะหล่ำปลี หัวหอมใหญ่ หรืออาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง อาจก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้
  3. อาหารแปรรูปที่มีสารกันบูด ไส้กรอก แฮม เนื้อเค็ม หรืออาหารแปรรูปที่มีสารไนไตรท์และโซเดียมสูง ทำให้เกิดการกักเก็บน้ำและความรู้สึกบวมอืด
  4. เครื่องดื่มที่มีฟอสเฟตสูง น้ำอัดลมบางชนิดมีสารฟอสเฟตที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้อง

เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนและระหว่างขับรถ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

แม้จะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มนี้วัยทองและทุกๆคนที่ขับรถไม่ควรดื่มก่อนออกเดินทาง แต่ก็ควรเน้นย้ำเสมอว่าแอลกอฮอล์ทุกชนิดควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

  1. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แม้ปริมาณน้อย แม้เบียร์เพียงกระป๋องเดียวหรือไวน์หนึ่งแก้ว ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจและเวลาตอบสนองได้
  2. ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เช่น เค้กที่แต่งรสด้วยเหล้ารัม หรือซอสอาหารบางชนิดที่มีไวน์เป็นส่วนผสม
  3. ยาสูตรน้ำบางชนิด ยาแก้ไอหรือยาแก้หวัดบางชนิดอาจมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ควรอ่านฉลากและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

เครื่องดื่มคาเฟอีนในปริมาณมาก

แม้คาเฟอีนในปริมาณพอเหมาะจะช่วยให้ตื่นตัว แต่การบริโภคมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อระหว่างการขับรถเดินทางกลับช่วงสงกรานต์ของวัยทองได้

  1. กาแฟเข้มข้นหลายแก้วติดต่อกัน ทำให้หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น วิตกกังวล ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการขับรถอย่างปลอดภัย
  2. เครื่องดื่มชูกำลัง มักมีคาเฟอีนและน้ำตาลในปริมาณสูง เมื่อฤทธิ์หมดอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมมากกว่าเดิม
  3. ชาเข้มข้น ชาบางชนิดโดยเฉพาะชาดำมีคาเฟอีนสูง การดื่มหลายแก้วอาจส่งผลใกล้เคียงกับการดื่มกาแฟมากเกินไป

และเพื่อให้การเดินทางระหว่างช่วงสงกรานต์ของคุณผู้อ่านทุกท่านได้รับความสะดวกสบาย เดินทางได้อย่างปลอดภัย และถึงที่หมายด้วยความสวัสดิภาพ ดังนั้น การเตรียมตัวก่อนเริ่มเดินทางในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้จึงมีความสำคัญมากๆ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มให้กับร่างกายวัยทอง เราจึงอยากแนะนำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม…

ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) อาหารเสริมพลังวัยทองที่ช่วยให้การเดินทางสงกรานต์ของคุณผู้อ่านไปเป็นอย่างมีพลัง โดยเฉพาะผู้ชายที่ต้องการเสริมความกระปรี้กระเปร่าและความตื่นตัวในชีวิตประจำวัน ด้วยสารสกัดทั้ง 7 ชนิด จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายก่อนและระหว่างการเดินทางกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์

  • 1. สารสกัดจากโสมเกาหลี

โสมเกาหลี เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงในการเพิ่มพลังงานและความทนทาน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขับรถระยะไกล สารจินเซโนไซด์ในโสมช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกตื่นตัวโดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนคาเฟอีน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำและมีสมาธิ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการขับขี่และเดินทางในช่วงสงกรานต์

  • 2. สารสกัดจากฟีนูกรีก

ฟีนูกรีก มีคุณสมบัติในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยการป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด หรือวิงเวียนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางได้นั่นเอง

  • 3. แอล อาร์จีนีน

อาร์จีนีน เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่อวัยวะทั่วร่างกายรวมถึงสมอง ซึ่งช่วยให้สมองของวัยทองได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ส่งผลให้มีความตื่นตัวและมีสมาธิดีขึ้น การไหลเวียนเลือดที่ดียังช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งขับรถเป็นเวลานาน ระหว่างการขับรถเดินทางไกลในช่วงสงกรานต์อีกด้วย

  • 4. สารสกัดกระชายดำ

กระชายดำ เป็นสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณในการเพิ่มพลังงานและความกระปรี้กระเปร่า สารแอนโธไซยานินในกระชายดำยังช่วยต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์สมอง ทำให้ความอดทนและการตอบสนองของร่างกายดีขึ้น

  • 5. ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลท

ซิงค์ เป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและการทำงานของระบบประสาท การขาดซิงค์อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียง่าย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการขับรถทางไกล ของวัยทอง

  • 6. สารสกัดจากแปะก๊วย

แปะก๊วย มีชื่อเสียงในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่สมอง ปรับปรุงความจำและสมาธิ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการขับขี่ยานพาหนะ งานวิจัยพบว่าแปะก๊วยช่วยปรับปรุงการตอบสนองและการประมวลผลข้อมูลเป็นปัญหาของคนวัยทอง ประโยชน์ข้อนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อต้องตัดสินใจฉับพลันบนท้องถนน

  • 7. สารสกัดจากงาดำ

งาดำ อุดมไปด้วยแคลเซียม เหล็ก สังกะสี และวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระในงาดำยังช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสื่อม ช่วยรักษาความสามารถในการมองเห็นให้วัยทองขับรถได้อย่างปลอดภัย

*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

และสำหรับคุณผู้หญิงกับ ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) อาหารเสริมทางเลือกสำหรับวัยทองที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความกระฉับกระเฉงว่องไว เพราะช่วยเพิ่มความตื่นตัวสูง ซึ่งเป็นข้อดีของคุณผู้อ่านท่านใดที่ต้องใช้พลังกำลังในการเดินทางช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการวัยทองที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น อาการร้อนวูบวาบ อาการเหงื่อออกเยอะ อาการนอนไม่หลับ ตลอดจนอารมณ์แปรปรวน ผ่านสารสกัดธรรมชาติ 6 ชนิด

  • 1. สารสกัดจากถั่วเหลือง

ถั่วเหลือง มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย สำหรับผู้หญิงวัยทองที่ระดับเอสโตรเจนลดลง ตัวนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ และความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ได้ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

  • 2. สารสกัดจากตังกุย

ตังกุยหรือโสมจีนเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้ยาวนานในการบำรุงเลือด เพิ่มการไหลเวียน และปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยเสริมความสามารถในการตอบสนองที่อาจช้าลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ตังกุยยังมีฤทธิ์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเดินทางขับรถทางไกลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อาจทำให้เกิดความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ

  • 3. สารสกัดจากแปะก๊วย

แปะก๊วย เป็นที่รู้จักในฐานะสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความจำและสมาธิ สารสกัดนี้ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและส่วนต่างๆ ของร่างกายวัยทอง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสื่อมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย

  • 4. สารสกัดจากงาดำ

งาดำเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากๆ ต่อวัยทอง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินอี แคลเซียม และกรดไขมันที่จำเป็น ช่วยส่งเสริมสุขภาพของผิวหนัง กระดูก และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด งาดำยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ เช่น แมกนีเซียม และซีลีเนียม ซึ่งสนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท ช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้าระหว่างการขับรถทางไกลได้ดี

  • 5. ออร์แกนิค แครนเบอร์รี่

ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี มีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนวัยทองที่อาจประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย

  • 6. อินูลิน พรีไบโอติก

อินูลินเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้และทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วยในระบบย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้อินูลินมีส่วนช่วยในการเพิ่มความตื่นตัวและรักษาระดับพลังงานในร่างกายอีกด้วย

*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) และ ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทางเลือกที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของคนวัยทอง ที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัว ปรับปรุงการทำงานของสมอง และรักษาระดับพลังงานในร่างกาย เหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทานง่ายๆ เพียงครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมกับอาหารมื้อใดก็ได้

การดูแลสุขภาพของวัยทองควรเป็นแบบองค์รวม ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ รวมถึงการขับรถเดินทางไกลในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างสงกรานต์

เมนูอาหารว่างระหว่างทางเดิน ให้วัยทองได้ทานจุ๊บจิ๊บ

นอกจากอาหารหลักที่สามารถช่วยให้คุณอิ่มท้องและเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การเตรียมอาหารว่างที่มีประโยชน์ไว้รับประทานระหว่างขับรถของวัยทอง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยรักษาระดับพลังงานและความตื่นตัวให้สม่ำเสมอ 

โดยเฉพาะสำหรับคนวัยทอง อาหารว่างควรมีขนาดพอดีคำ สะดวกในการรับประทาน และไม่รบกวนสมาธิในการขับขี่หรือเดินทางในช่วงสงกรานต์

อาหารว่างประเภทผลไม้

  1. ผลไม้สดหั่นชิ้นพอคำ
    • แอปเปิ้ลหั่นชิ้น
    • ส้มแกะเปลือกแบ่งกลีบ
    • องุ่นล้างสะอาด
    • สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก
  1. ผลไม้แห้งและถั่ว
    • กล้วยตาก
    • มะม่วงอบแห้ง
    • อัลมอนด์อบไม่เค็ม
    • เม็ดมะม่วงหิมพานต์
    • เมล็ดฟักทอง
  1. ฟรุตบาร์โฮมเมด
    • ผสมอินทผลัมบด กล้วยบด ข้าวโอ๊ต และถั่วบด
    • ห่อด้วยแผ่นฟิล์มและตัดเป็นชิ้นพอดีคำ

อาหารว่างประเภทโปรตีน

  1. ไข่ต้มพกพา
    • ไข่ต้มปอกเปลือกใส่กล่องพลาสติก
    • พริกไทยและเกลือป่นใส่ถุงเล็กๆ แยกต่างหาก
    • แครกเกอร์โฮลวีตจำนวน 4 – 6 ชิ้น
  1. โยเกิร์ตกรีกผสมผลไม้
    • โยเกิร์ตกรีกรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
    • เบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง 2 ช้อนโต๊ะ
    • กราโนล่าโฮลเกรน 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำผึ้งหรือเมเปิลไซรัป 1 ช้อนชา (ถ้าต้องการความหวาน)
  1. ถั่วและชีสราดน้ำผึ้ง
    • ถั่วอัลมอนด์หรือวอลนัท 10 – 15 เม็ด
    • ชีสเฟต้าหรือชีสก้อนไขมันต่ำ 30 กรัม
    • น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

ขนมถุงสำหรับการเดินทาง

  1. สาหร่ายปรุงรสห่อข้าว
    • ช่วยเพิ่มไอโอดีน ดีต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์
    • มีแร่ธาตุจากทะเลที่มีประโยชน์
    • แคลอรี่ต่ำ ไม่ทำให้ง่วงนอน
  1. ธัญพืชอบกรอบ
    • ถั่วลันเตาอบกรอบ
    • เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือเล็กน้อย
    • ข้าวโพดอบกรอบไม่มีน้ำตาล
  1. ชิปถั่วเขียวหรือถั่วชิกพี
    • มีโปรตีนสูง ใยอาหารมาก
    • อิ่มนาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
    • ทานง่ายระหว่างขับรถ

เครื่องดื่มสุขภาพสำหรับพกพา

  1. น้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม
    • น้ำใบเตยหอม (ช่วยให้สดชื่น)
    • น้ำอัญชัน (มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง)
    • น้ำตะไคร้มะนาว (ช่วยให้สดชื่นและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด)
  1. ชาเขียวหรือชาดำชงเย็น
    • เตรียมใส่กระติกเก็บความเย็น
    • ไม่ต้องเติมน้ำตาล หรือเติมเพียงเล็กน้อย
    • สามารถเติมมะนาวหรือใบสะระแหน่เพื่อความสดชื่น
  1. สมูทตี้ผักผลไม้
    • ผสมผักโขม กล้วย น้ำมะพร้าว และขิงเล็กน้อย
    • บรรจุในขวดเก็บความเย็น
    • ดื่มได้ภายใน 4 – 6 ชั่วโมงหลังจากทำ

เคล็ดลับการจัดเตรียมอาหารว่างสำหรับการเดินทาง

นอกจากการเตรียมอาหารว่างสำหรับการเดินทางไกลแล้ว บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ก็ต้องคำนึงถึงความสะดวก การเก็บรักษา และการรับประทานที่ไม่รบกวนการขับขี่ นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การเตรียมอาหารว่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เตรียมและใส่อย่างเป็นระบบ หยิบง่ายต่อการทาน

  1. แบ่งเป็นส่วนพอดีคำ
    • ใช้ถุงซิปล็อคขนาดเล็กหรือกล่องแบ่งส่วนบรรจุอาหาร
    • แบ่งขนาดให้พอดีสำหรับการทานครั้งละ 1 – 2 คำ
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้มือจับมากๆ หรือเลอะเทอะ
  1. คำนึงถึงอุณหภูมิ
    • ใช้กระติกเก็บความเย็นสำหรับอาหารที่ต้องแช่เย็น
    • สำหรับเดินทางไกลมาก อาจพิจารณาใช้ถุงน้ำแข็งแห้งหรือเจลเย็น
    • วางแผนทานอาหารที่เน่าเสียง่ายในช่วงแรกของการเดินทาง
  1. จัดเรียงให้หยิบใช้ง่าย
    • วางอาหารว่างในตำแหน่งที่หยิบได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
    • จัดลำดับการทานตามความเหมาะสม
    • บอกให้ผู้โดยสารช่วยหยิบให้หากมีคนนั่งมาด้วย

ทานด้วยเวลาที่เหมาะสม

  1. กำหนดเวลาทานอาหารว่าง
    • วางแผนทานอาหารว่างทุก 2 – 3 ชั่วโมง
    • ทานเมื่อรู้สึกเริ่มเหนื่อยล้าหรือหิว อย่ารอให้หิวมาก
    • ผสมผสานระหว่างอาหารว่างประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และผลไม้
  1. ดื่มน้ำสม่ำเสมอ
    • พกขวดน้ำที่เติมได้ง่ายและหยิบจับสะดวก
    • ดื่มน้ำประมาณ 150 – 250 มล. ทุก 1 – 2 ชั่วโมง
    • สังเกตสีปัสสาวะเพื่อตรวจสอบภาวะการขาดน้ำ
  1. จอดพักเพื่อทานอาหารบ้าง
    • วางแผนจอดพักทุก 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อทานอาหารว่างบางมื้อ
    • ใช้เวลานี้ในการยืดเส้นยืดสายและพักสายตา
    • หากง่วงมาก ให้จอดพักนอนสั้นๆ 15 – 20 นาที

เมนูอาหารว่างสำหรับผู้มีโรคประจำตัว

คุณผู้อ่านคนวัยทองท่านไหนที่มีโรคประจำตัว หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs 13:03/68 ที่ต้องระวังเรื่องอาหาร เราก็ได้รวบรวมมาฝากเช่นกัน ลองมาดูเพิ่มเติมกันว่ามีอะไรบ้าง และประเภทไหนเหมาะกับท่านใด

สำหรับผู้มีโรคเบาหวาน

  1. อาหารว่างควบคุมน้ำตาล
    • แอปเปิ้ลเขียวกับเนยถั่ว 1 ช้อนชา
    • ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครกเกอร์โฮลวีต 2 – 3 ชิ้น
    • โยเกิร์ตกรีกไม่มีน้ำตาล 1/2 ถ้วย
    • ถั่วลิสงคั่ว 1 กำมือเล็ก
  1. เคล็ดลับการทานอาหารว่าง
    • ทานในปริมาณเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง
    • พกเครื่องวัดระดับน้ำตาลและยาประจำตัว
    • เตรียมลูกอมหรือน้ำหวานสำหรับกรณีน้ำตาลต่ำ

สำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง

  1. อาหารว่างลดโซเดียม
    • ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล ส้ม กล้วย
    • โยเกิร์ตรสธรรมชาติกับเมล็ดแฟลกซ์
    • ถั่วอบไม่เค็ม
    • ข้าวเกรียบธัญพืชไม่เติมเกลือ
  1. เครื่องดื่มที่แนะนำ
    • น้ำมะนาว น้ำอัญชัน (ไม่เติมน้ำตาล)
    • ชาเขียวหรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน
    • น้ำมะพร้าวน้ำหอมธรรมชาติในปริมาณพอเหมาะ

สำหรับผู้มีโรคหัวใจ

  1. อาหารว่างบำรุงหัวใจ
    • ถั่ววอลนัท อัลมอนด์ 1 กำมือเล็ก
    • ผลเบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง 1/2 ถ้วย
    • ชิ้นส้มโอสด
    • โยเกิร์ตไขมันต่ำกับเมล็ดเจีย
    • ระวังปริมาณเกลือและน้ำตาล

การเตรียมอาหารว่างที่มีประโยชน์และเหมาะสมสำหรับการเดินทาง จะช่วยให้คนวัยทองขับรถเดินทางระยะไกลในช่วงสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัย มีสมาธิดี และพร้อมที่จะสนุกกับเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัวอย่างเต็มที่

สรุป

การเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยรถยนต์ของคนวัยทองจะปลอดภัยและมีความสุขมากยิ่งขึ้น หากคุณผู้อ่านรู้จักเลือกอาหารที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการง่วงนอนหรือไม่สบายท้อง การเข้าใจว่าอาหารชนิดใดควรหลีกเลี่ยงถือเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทองที่ร่างกายอาจตอบสนองต่ออาหารแตกต่างไปจากวัยหนุ่มสาว

การเดินทางอย่างปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะการขับขี่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสภาพร่างกายและความตื่นตัวของผู้ขับขี่ด้วย การเลือกอาหารให้เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คนวัยทองเดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย

และอย่าลืมดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วย “ดีเน่ DNAe” ให้เราดูแลคุณ